Hello

Hello's avatar
Hello
npub1tw5u...xz0p
ทักษะสำคัญ เปลี่ยนชีวิตใน 15 นาที (Important Skills That Can Change Your Life in 15 Minutes)” โดย I am Joe Jitnarin --- ภาพรวม โจ จิตรนรินทร์ พูดถึง "5 ทักษะสำคัญที่สามารถเปลี่ยนชีวิตได้จริง" โดยเฉพาะในยุคที่เทคโนโลยี AI และข้อมูลท่วมท้น เขาเน้นว่าคนที่ปรับตัว คิดเป็น และเข้าใจตัวเอง จะ “อยู่รอดและชนะในเกมชีวิต” --- โลกกำลังเปลี่ยนไป * โลกทุกวันนี้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป * AI, เทคโนโลยี, และการแข่งขันสูง ทำให้ “กฎเดิมใช้ไม่ได้แล้ว” * ใครที่ไม่พัฒนาทักษะใหม่จะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง --- ทักษะที่ 1: การอ่านเกมและคิดวิเคราะห์ (Critical Thinking) * ข้อมูลในโลกออนไลน์กว่า **ครึ่งหนึ่งบิดเบือนหรือมีอคติ** * ต้องถามตัวเองก่อนเชื่อว่า: 1. ใครได้ประโยชน์ถ้าเราคิดแบบนี้? 2. ข้อมูลมาจากไหน? 3. มันพยายามให้เราเชื่อหรือทำอะไร? * “หยุดคิดก่อนเชื่อ” คือเกราะป้องกันตัวในยุคข่าวปลอม ใจความสำคัญ: คนที่คิดวิเคราะห์เป็น จะไม่โดนหลอกง่าย และตัดสินใจแม่นกว่า --- ทักษะที่ 2: การคิดด้วยตัวเอง (Independent Thinking) * หลายคนพึ่งพา AI หรือความคิดเห็นคนอื่นมากเกินไป * คนที่ “คิดเองได้” จะโดดเด่นในยุคนี้ * การใช้ AI โดยไม่ใส่ความคิดของตัวเองทำให้สูญเสียเอกลักษณ์ ใจความสำคัญ: AI ช่วยได้ แต่คนที่คิดเองได้คือคนที่จะรอดในระยะยาว --- ทักษะที่ 3: การสอน (Teaching & Communication) * ผู้นำที่แท้จริงคือ “คนที่สอนคนอื่นให้เก่งขึ้น” * การสอนช่วยให้เราเข้าใจสิ่งที่รู้ลึกขึ้น และฝึกการสื่อสารที่มีพลัง * “การสอนคือการแปลงความรู้ซับซ้อนให้เข้าใจง่ายและลงมือทำได้” ใจความสำคัญ: คนที่ถ่ายทอดเป็น จะกลายเป็นผู้นำที่แท้จริง --- ทักษะที่ 4: การมองเกมยาว (Long-Term Thinking) * สังคมยุคนี้ติดกับ “ผลลัพธ์เร็ว” * แต่ความสำเร็จจริงต้องใช้เวลาและความสม่ำเสมอ * โจยกตัวอย่างว่า ช่อง YouTube ของเขาเติบโตได้เพราะวางแผนระยะยาว ใจความสำคัญ: คิดไกลกว่าคนอื่น 10 ปี แล้วลงมืออย่างต่อเนื่อง --- ทักษะที่ 5: การฟังเสียงหัวใจตัวเอง (Listening to Yourself) * คนส่วนใหญ่ใช้ชีวิตตาม “ความคาดหวังของคนอื่น” * เรามักลืมถามว่า “เราต้องการอะไรจริง ๆ?” * การฟังเสียงภายในทำให้เรากล้าทำในสิ่งที่มีความหมายกับชีวิตจริง ใจความสำคัญ: หยุดฟังเสียงคนอื่น แล้วหันมาฟังหัวใจตัวเอง --- สรุปและแรงบันดาลใจ * ทักษะทั้ง 5 คือกุญแจเปลี่ยนชีวิต: 1. คิดวิเคราะห์ 2. คิดด้วยตัวเอง 3. ถ่ายทอดความรู้ 4. มองระยะยาว 5. ฟังเสียงหัวใจ --- คำพูดเด็ดจากคลิป > “คนที่คิดเองได้ วิเคราะห์เป็น มองเกมยาว และฟังเสียงหัวใจตัวเอง — จะไม่ใช่แค่รอด แต่จะชนะในเกมของชีวิต” --- #siamstr
สรุป วิดีโอ “I’m 45. If you’re in your 30s, watch this” โดย Dan Go --- – บทนำ Dan แนะนำตัวเอง (อายุ 45 ปี) และบอกว่าวิดีโอนี้ทำขึ้นเพื่อคนอายุ 30 ที่อยากมีชีวิตที่แข็งแรง มีพลัง และไม่เสียดายเมื่อถึงวัย 40–50 --- – คนมีอยู่ 2 ประเภท * เมื่อถึงวัย 40 จะมีคนอยู่สองแบบ: 1. คนที่สุขภาพดี สดใส มีแรงบวก 2. คนที่อ่อนล้า น้ำหนักเกิน และไม่มีความสุข * สิ่งที่กำหนดว่าเราจะเป็นแบบไหน คือ “นิสัย” ที่สร้างไว้ตอนอายุ 30 --- – การยกเวทสำคัญมาก * การฝึกกล้ามเนื้อ (resistance training) คือสิ่งจำเป็น * กล้ามเนื้อ = ความหนุ่มสาวและพลังชีวิต * เริ่มง่าย ๆ: ยกเวท 3–4 วันต่อสัปดาห์ เน้นท่าพื้นฐาน (compound movements) --- – คุณคือสิ่งที่คุณกิน * โภชนาการเป็นตัวกำหนดทั้งรูปร่างและพลังงาน * เน้นอาหาร “จริง” (whole foods), โปรตีนสูง, ลดอาหารแปรรูป * หลีกเลี่ยงน้ำตาลและเครื่องดื่มที่มีแคลอรี เช่น น้ำอัดลม กาแฟใส่น้ำตาล --- – คุณคือ “เวลา” ที่คุณกิน * เวลากินมีผลต่อสุขภาพ * แนะนำให้ลอง Intermittent Fasting (IF) หรือ Time-Restricted Eating (TRE) * หลีกเลี่ยงการกินก่อนนอน 2–3 ชั่วโมง --- – การนอนคือกุญแจสำคัญ * การนอนส่งผลต่อทุกอย่าง ทั้งฮอร์โมน ไขมัน สมาธิ และอารมณ์ * เคล็ดลับ: * เข้านอนและตื่นให้ตรงเวลา * ปิดหน้าจอก่อนนอน 1 ชั่วโมง * ห้องนอนควรมืดและเย็น --- – ใส่ใจรูปลักษณ์ภายนอก * สิ่งที่คุณแต่งตัวและดูแลตัวเองมีผลต่อความมั่นใจและการปฏิบัติของคนรอบข้าง * รักษาท่าทาง การแต่งกาย และสุขภาพผิว * “แต่งตัวเหมือนคนที่เคารพตัวเอง” --- – ยอมรับเทคโนโลยีใหม่ * อย่ากลัวการเปลี่ยนแปลง * ใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น AI, แอปสุขภาพ, อุปกรณ์ติดตามการออกกำลังกาย * การเรียนรู้สิ่งใหม่ช่วยให้สมองและความคิดไม่แก่เร็ว --- สาระสำคัญ * วัย 30 คือ “ทศวรรษชี้ชะตา” ของสุขภาพและคุณภาพชีวิต * การเปลี่ยนนิสัยเล็ก ๆ วันนี้ จะกลายเป็นผลลัพธ์ใหญ่ในอนาคต * โฟกัสใน 5 อย่าง: ออกกำลัง – กินดี – นอนพอ – ดูแลตัวเอง – เปิดรับเทคโนโลยี --- ข้อความสรุปสุดท้าย > “นิสัยที่คุณสร้างในวัย 30 จะเป็นรางวัล…หรือเป็นโทษ ในวัย 40” Dan ฝากให้ทุกคนเริ่มเปลี่ยนตอนนี้ ไม่ต้องรอวันพรุ่งนี้ เพราะแม้เพียงการปรับเล็กน้อยวันนี้ ก็สามารถเปลี่ยนชีวิตในอีก 10 ปีข้างหน้าได้ #siamstr
Lightning Network ใช้ในชีวิตจริงได้จริงๆ ไหม? . Lightning Network มาช่วยแก้ปัญหาได้ในหลายๆ ด้าน เช่น การเติบโตของเครือข่าย และ จำนวนผู้ใช้งาน . ทำไมธุรกิจต่างๆ ถึงสนใจที่จะนำ Lightning มาใช้ ? เพราะสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องขออนุญาตใคร ไม่จำกัดระยะทาง และแทบจะไม่มีค่าธรรมเนียม ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่เคยมีมาก่อน และเรากำลังจะได้สัมผัสประสบการณ์การใช้เงินผ่านอินเทอร์เน็ตในรูปแบบใหม่ . ขั้นตอนที่เราคุ้นเคยกันดีในการกรอกชื่อ ที่อยู่ บัตรเครดิต และข้อมูลอื่นๆ เพื่อซื้อของออนไลน์ จะถูกมองว่าเป็นเพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆ ในประวัติศาสตร์ของอินเทอร์เน็ต ในอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้า . อนาคตถ้ายังไม่เงินที่สามารถใช้ผ่านอินเทอร์เน็ตได้ โลกก็คงอยู่ยาก แต่เครือข่าย Lightning Network สามารถทำได้ และทำได้มากกว่าการซื้อขายสินค้าและบริการ . ตัวอย่างที่คาดว่า Lightning Network จะนำมาสู่โลกอินเทอร์เน็ตในอนาคต . ลองคิดตามดูขั้นตอนการซื้อของออนไลน์ในยุคปัจจุบัน แม้ว่าบริการอย่าง Apple Pay และ PayPal จะช่วยลดความยุ่งยากไปบ้าง แต่ปัญหาหลักคือบริการเหล่านี้ยังคงผูกอยู่กับระบบเดิมที่ถูกควบคุม ตรวจสอบได้ช้า ไม่เสถียร และตั้งค่าใช้งานยาก . ลองนึกภาพว่าเราสามารถแลกเปลี่ยนมูลค่ากับใครก็ได้ทั่วโลก โดยไม่ต้องขออนุญาตหรือกลัวว่าบัญชีของเราจะถูกปิดหรือเรียกเก็บเงินคืน นี่คือสิ่งที่ Lightning Network ช่วยให้เกิดขึ้นได้ . Lightning Network ช่วยเพิ่มศักยภาพของอินเทอร์เน็ตได้หลายด้าน ลองนึกภาพเว็บที่คุณใช้งานที่เชื่อมต่อกับเงินที่คุณควบคุมผ่าน Lightning Network จากนั้นเมื่อคุณเข้าไปที่ Amazon แทนที่จะต้องผ่านกระบวนการเช็คเอาท์ 4 ขั้นตอน คุณเพียงแค่คลิกปุ่ม “Buy Now” หลังจากคลิกแล้ว Amazon จะสร้างใบแจ้งหนี้บน Lightning Network ซึ่งโหนดของคุณจะชำระทันที และคุณจะได้รับการยืนยันว่าซื้อสำเร็จ กระบวนการทั้งหมดใช้เวลาเพียง 1-2 วินาที . นอกจากนี้ บริการที่เป็นเนื้อหาออนไลน์ เช่น ข่าวสาร ก็อาจเปลี่ยนแปลงได้ด้วยระบบนี้ . สื่อออนไลน์หลายเจ้าประสบปัญหาในการหาเงินจากการโฆษณาที่น่ารำคาญ หรือระบบสมัครสมาชิกที่ยุ่งยาก ลองนึกภาพว่าคุณเข้าเว็บข่าวแล้วจ่ายเงินเฉพาะเมื่ออ่านบทความ ระบบจะคิดค่าใช้จ่ายตามเนื้อหาที่คุณบริโภคแบบเรียลไทม์ . ทำไมต้องจ่ายค่าสมาชิกเดือนละ $8 ในเมื่อเราอยากอ่านแค่บทความเดียวที่น่าสนใจ? แนวคิดนี้ถูกใช้งานแล้วใน Podcasting 2.0 ที่เรียกว่า "Value for Value" ซึ่งผู้ฟังจะส่งเงินเป็นจำนวนเล็กน้อยในขณะที่ฟังพอดแคสต์ แนวคิดนี้สามารถนำไปใช้กับเนื้อหาอื่นๆ อย่างวิดีโอและบทความได้เช่นกัน 4 Use Case การใช้งานหลักๆ ของ Lightning Network การชำระเงินในตลาด ตลาดต้องการการชำระเงินที่รวดเร็วขึ้นเพื่อให้ทันกับความเร็วของการค้าโลก การทำให้การชำระเงินเร็วขึ้นเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะจะช่วยให้ตลาดทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เปรียบเทียบง่ายๆ: คิดว่าการซื้อขายในตลาดเหมือนการแข่งรถ ถ้ารถคันไหนเติมน้ำมันได้เร็วกว่า คันนั้นก็จะวิ่งได้เร็วกว่าและมีโอกาสชนะมากกว่า . การค้าระหว่างประเทศที่ง่ายขึ้น Lightning Network และ Bitcoin ช่วยเสริมการค้าสินค้าและบริการออนไลน์ทั่วโลก โดยไม่คำนึงถึงพรมแดนที่มนุษย์กำหนด ช่างฝีมือในประเทศเล็กๆ สามารถขายสินค้าของตนได้ทุกที่ในโลก โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการแปลงสกุลเงินหรือค่าใช้จ่ายต่างๆ . ในปัจจุบันการโอนเงินข้ามพรมแดนมีมูลค่ารวมถึง 600 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และ 3/4 ของเงินจำนวนนี้ไหลไปสู่ประเทศที่มีรายได้ต่ำและปานกลาง Lightning Network ทำให้ผู้คนทั่วโลกเข้าถึงเงินที่ไม่สามารถถูกลดมูลค่าหรือเรียกเก็บค่าธรรมเนียมที่สูงเกินไปได้ . ธุรกิจที่มีเงินสดหมุนเวียนจำกัด หลายธุรกิจไม่ได้มีเงินสดสำรองมากพอ บ่อยครั้งที่การชำระเงินล่าช้าไป 7-14 วันเนื่องจากต้องรอเงินเข้าบัญชี Lightning Network ช่วยให้ธุรกิจสามารถชำระหนี้แบบเรียลไทม์เป็นงวดๆ ได้ เช่น หากต้องจ่ายเงิน 5,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือนสำหรับบริการ 30 วัน Lightning Network จะทำให้ธุรกิจสามารถชำระวันละ 166.66 ดอลลาร์สหรัฐ แทนที่จะต้องจ่ายเต็มจำนวนล่วงหน้า . การหลีกเลี่ยงคนกลาง ระบบธนาคารแบบเดิมมีความซับซ้อน และมีหลายฝ่ายที่เข้ามาเก็บค่าธรรมเนียม เช่น เมื่อคุณซื้อของด้วยบัตรเดบิต จะมีธนาคารผู้ออกบัตร บริษัทบัตรเครดิต และธนาคารกลางเข้ามาเกี่ยวข้อง . Lightning Network ช่วยให้สามารถชำระเงินได้ทันทีโดยไม่ต้องมีคนกลาง จึงลดค่าใช้จ่ายและความเสี่ยงให้กับทั้งผู้ขายและผู้บริโภค . ร้านค้าที่ใช้ Lightning มักให้ส่วนลดแก่ลูกค้าเพราะไม่มีค่าธรรมเนียมจากคนกลาง นอกจากนี้ ระบบชำระเงินที่ใช้ Lightning ยังสามารถเป็นซอฟต์แวร์แบบโอเพนซอร์สฟรี ทำให้ประหยัดเงินได้มากขึ้น ลูกค้าก็จ่ายถูกลง . การเติบโตของ Lightning Network แม้ว่าโปรโตคอล Lightning จะยังอยู่ระหว่างการพัฒนา แต่แอปพลิเคชันที่ใช้แก้ปัญหาจริงถูกสร้างขึ้นอย่างต่อเนื่อง . ความต้องการที่แท้จริงกำลังผลักดันการเติบโตนี้ ควรพิจารณาดูว่า Lightning Network จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนให้ธุรกิจของคุณได้อย่างไร . สรุปข้อดีของการใช้งาน Lightning Network มีอะไรบ้าง . Lightning Network สามารถทำให้การโอนเงินสามารถทำได้ทันที และค่าธรรมเนียมต่ำมาก ไม่จำกัดระยะทางโอนเงิน รับเงินได้ทั่วโลก . ใช้ในการแลกเปลี่ยนโดยไม่มีตัวกลาง ใช้ระหว่างบุคคลได้เลย ทำให้ลดความเสี่ยงและค่าใช้จ่ายของตัวกลางลงไปได้ . ใช้ชำระเงินออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การทำ one-click buy now หรือจ่ายเท่าที่ใช้ เกิดขึ้นได้ง่าย . ช่วยในการทำธุรกรรมขนาดเล็กและบ่อยๆ โดยแทบไม่มีหรือมีค่าธรรมเนียมที่ต่ำมาก . ทำการค้าระหว่างประเทศได้ง่ายขึ้น และลดกำแพงของการแปลงสกุลเงินและค่าธรรมเนียมที่เกินจำเป็น . ธุรกิจได้ประโยชน์จากกระแสเงินสดที่ดีขึ้น การแบ่งย่อยจ่ายในจำนวนเล็กลงและจ่ายได้ทันที การจ่ายหนี้ที่ต้องรอจ่ายทีเดียวสามารถเปลี่ยนเป็นแบ่งย่อยจ่ายเป็นรายวันก็ยังได้ ทำให้เกิดความสะดวกสบายขึ้นและเป็นผลดีต่อธุรกิจอีกด้วย . #siamstr #LightningNetwork #bitcoin
“ถ้ามีความสามารถแต่ไม่แสดงออกมา แล้วจะต่างอะไรกับคนที่ไม่มีความสามารถ” คิดยังไงกับประโยคนี้ #siamstr
”รัฐบาลอินเดียที่ต้องการลดจำนวนงูเห่า จึงให้รางวัลสำหรับหัวงูเห่าที่นำมาส่ง แต่ผลลัพธ์กลับตรงกันข้าม ผู้คนเริ่มเพาะพันธุ์งูเห่าเพื่อรับรางวัล จำนวนงูเห่าจึงเพิ่มมากขึ้น “ อีกหนึ่งตัวอย่างของการแทรกแซง ที่ทำให้เกิดผลเสียมากกว่าเดิม #siamstr
ทดลองใช้บริการสั่งอาหาร food delivery จ่ายด้วย #Bitcoin ครั้งที่สอง ค่าอาหารรวมค่าส่ง 100 บาท แต่จ่ายด้วย bitcoin จำนวน 4,314 sats ด้วยบัตรที่ผูกไว้ เป็นบัตร virtual debit card ที่เติมเงิน bitcoin เข้าไปในบัญชีได้ แล้วเขาจะแปลงเงินให้อัตโนมัติ คนขายหรือร้านค้าหรือผู้ให้บริการส่งอาหารไม่จำเป็นต้องรู้จัก bitcoin เลย เพียงแค่สามารถรับบัตร visa เราก็ใช้ bitcoin ของเราในการซื้อสินค้าหรือบริการได้แล้ว หลังจากนั้นลองไปกดซื้อ bitcoin ใน exchange จำนวนเท่ากัน จ่ายไป 102 บาท สรุปจ่ายด้วยเงิน bitcoin จะแพงกว่าจ่ายเงินบาทโดยตรงถึง 2 บาท #siamstr
ใช้ #Bitcoin จ่ายเสื้อผ้าในห้างได้จริงหรือไม่? มาดูกัน! ถ้าคุณเคยได้ยินใครบอกว่า Bitcoin ใช้จ่ายจริงไม่ได้ ทำได้แค่เทรดหรือเก็งกำไร ขอบอกเลยว่าผิด! ตอนนี้มีหลายร้านที่รับ Bitcoin ทั้งร้านกาแฟ ร้านเค้ก หรือแม้แต่เติมเงินมือถือก็จ่ายด้วย Bitcoin ได้ แล้วถ้าร้านค้าที่เราอยากซื้อของไม่รับ Bitcoin ล่ะ? ไม่ต้องห่วง! ถ้าร้านนั้นรับบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต เราก็สามารถใช้ Bitcoin หรือ sats จ่ายได้แล้ว ผ่านบริการบัตรเสมือน (virtual debit card) ที่สามารถโอน BTC เข้าไปในบัญชีได้ และแปลงสกุลเงินให้อัตโนมัติตามราคาตลาดในขณะนั้น ประสบการณ์ใช้ Bitcoin จ่ายเสื้อผ้า เมื่อเร็วๆ นี้ ได้ไปซื้อเสื้อผ้าในราคา 927 บาท แต่ใช้ Bitcoin จ่ายไป 38,892 sats ผ่านบัตรเดบิตเสมือนที่เชื่อมต่อกับมือถือ แค่แตะจ่ายก็เสร็จเรียบร้อย ความเร็วเท่ากับการใช้บัตรเครดิตปกติเลย นับในใจ 5 4 3 2 1 เสร็จแล้ว รับใบเสร็จแล้วเดินออกไปได้เลย ค่าธรรมเนียม ค่าธรรมเนียมมีนิดหน่อย เช่น 150 บาท แต่พอจ่ายด้วย sats แล้ว เอา มาคำนวณ ก็จะประมาณ 153 ซึ่งเรทที่คำนวณอาจจะไม่แม่นยำ เพราะดึงข้อมูลมาจาก yahoo หรือไม่ก็ Cooingecko อีกทีนึง ซึ่งถือว่าคุ้มค่า กับการถือเงินที่มั่นคงแข็งแกร่ง อีกทั้งการใช้ sats ยังสะดวกในการทำบัญชีด้วย ในโลกของ bitcoin standard Bitcoin ในอนาคต เสื้อผ้าราคา 25 USD ในวันนี้อนาคตราคาอาจจะขึ้นไปเป็น 50 USD แต่ถ้าเงินไม่เสื่อมค่า วันนี้จ่ายเสื้อผ้า 1 ชุด ด้วย 40,000 sats อนาคตอาจใช้แค่ 20,000 sats ก็ได้! การถือเงินที่ไม่เสื่อมค่าอย่าง Bitcoin ย่อมดีกว่าถือเงินที่เสื่อมค่า ช่วยให้รู้สึกอยากประหยัดมากขึ้นไปอีก ลองใช้ Bitcoin จ่ายดูสิ! มันอาจจะเปลี่ยนวิธีการใช้จ่ายของคุณไปเลยก็ได้ การช้อปปิ้งไม่ใช่แค่การซื้อของ แต่เป็นการลงทุนในความสุขเล็กๆ ที่ทำให้เราได้พักผ่อนใจ และรู้ว่าการให้รางวัลตัวเองในบางครั้งก็เป็นเรื่องที่สำคัญ #ความสุขเล็กๆ #ช้อปปิ้ง #siamstr #BitcoinLifestyle #BitcoinPayments image