Lina Engword ⚡

Lina Engword ⚡'s avatar
Lina Engword ⚡
npub16dsw...653f
ทำอะไรจริงจังจริงใจ ให้มากกว่าขอ คิดเยอะแต่ไม่คิดมาก ไม่พูดมากแต่พูดเก่ง เมตตาแต่ไม่ปราณี Creative Commons license Show the source - not for commercial use - not modified. (cc-by-nc-nd) Height : 158 cm Weight : 55 kg Bloodtype : O Eyesight : less than -4.8 Shoe size : 23.5 cm Size 38 Clothing size : S-M Occupation : Luthier and Musician Source of inspiration : Enlightened person Hobbies : Cook Likes : Eat Hates : roach and harm Pets : a Cat Favourite Bands : Metallica, X-JAPAN, Within Temptation, Xandria, after school, In Flames, Drying Fetus, L Arc N Ciel, Luna Sea, Apocalyptica, Versailles, Evanescence, Nile, Alexi laiho Cigarettes : Nonsmoker Brands : n/a Manga : DEATH NOTE, Bleach Movie : Underworld Idol : Milla Jovovich and Kate Beckinsale Drinks : Arabica Coffee Latte and Amecano, Juice, Soybean milk, Milk
‼️ เปิดตำรา "วิชาคน" กฎเหล็กทางสังคมที่ไม่มีสอนในห้องเรียน รู้ไว้...จะได้เปรียบ 🧠 เคยไหม ❓ ที่รู้สึกว่าทำดีแทบตายแต่ไม่ได้ดี หรือบางครั้งความหวังดีของเรากลับกลายเป็น "อวดดี" ในสายตาคนอื่น คลิปนี้ได้รวบรวม จิตวิทยาการใช้ชีวิต และ มารยาททางสังคม ที่ลึกซึ้ง (บางข้ออาจดูโหดร้ายแต่มันคือเรื่องจริง) มาสรุปให้เข้าใจง่ายๆ ดังนี้ค่ะ 1️⃣ ศิลปะการใช้เงินและการซื้อใจ 🔹 ของราคาถูก ➡️ ซื้อกับคนรู้จัก เพราะถือเป็นการช่วยอุดหนุนและรักษา "น้ำใจ" 🔹 ของราคาแพง ➡️ ซื้อร้านที่ไม่รู้จัก เพราะเราสามารถ "ต่อรองราคา" ได้ง่ายกว่า โดยไม่ต้องเกรงใจ 2️⃣ มารยาทบนโต๊ะอาหารและวงสนทนา 🔹 โต๊ะที่มีคนมากกว่า 3 คน 🚫 ไม่ควรคุย "เรื่องส่วนตัว" 🔹 งานสังสรรค์ที่มีเกิน 6 คน 🚫 ไม่ควรคุย "เรื่องงาน" 🔹 ถ้ามีเจ้าภาพเชิญไปเลี้ยง 🚫 อย่าพาเพื่อนของตัวเองติดสอยห้อยตามไปด้วย (มารยาทสำคัญมาก) 🔹 เจอคนรู้จักกำลังกินข้าว 🚫 แค่ทักทายพอ อย่าถือวิสาสะเข้าไปนั่งร่วมโต๊ะกินกับเขา 3️⃣ จิตวิทยาความสัมพันธ์และการวางตัว 🔹 ผู้หญิงที่เลือกนั่งตรงข้ามคุณ มีแนวโน้มจะ "เปิดใจ" ให้คุณง่ายกว่า 🔹 เรื่องการแบ่งปัน สิ่งที่คุณคิดว่าคือการ "แชร์ความสุข" อีกฝ่ายอาจมองว่าคุณกำลัง "อวดดี" (ระวังเส้นบางๆ นี้ให้ดี) 🔹 ลูกคนอื่น...ห้ามสอน ต่อให้สนิทแค่ไหน หรือเด็กซนเพียงใด อย่าไปสั่งสอนลูกเขา เพราะเท่ากับตบหน้าพ่อแม่เด็กทางอ้อม 4️⃣ เทคนิคการขอความช่วยเหลือและการทำงาน 🔹 ไปทำงานต่างถิ่น (เมืองเพื่อนเก่า) อย่ารีบติดต่อทันที ให้ติดต่อวันสุดท้ายก่อนกลับแล้วค่อยนัดกินข้าว (เว้นระยะห่างให้พองาม) 🔹 จะไหว้วานใคร...ต้องมีของติดมือ เขาอาจจะไม่รับของ แต่คุณ "ห้าม" ไปตัวเปล่าเด็ดขาด 🔹 ถ้าเขาไม่ออกปากขอ...อย่าเสนอหน้าช่วย บางครั้งต้องรู้จัก "แกล้งโง่" เพื่อเก็บแต้ม อย่าโชว์เหนือเกินความจำเป็น 🔹 คนพูดเยอะ = พลาดเยอะ การพูดควรมีแค่ 3 เป้าหมาย คือ 1.ให้คนพอใจ 2.ให้คนช่วยเรา 3.เพื่อให้ได้เงิน 5️⃣ การจัดการอารมณ์และศัตรู 🔹 อย่าตัดสัมพันธ์แบบหักดิบ ต่อหน้าให้รู้จักอ่อนน้อม ถนอมน้ำใจ แต่ลับหลังต้องเด็ดขาด 🔹 ยิ้มให้คนที่ไม่ชอบขี้หน้า คือทักษะชั้นสูงที่มนุษย์สังคมต้องฝึกให้เป็น 🔹 คุกที่ใหญ่ที่สุด คือ "ความคิด" ของเราเอง ใครติดอยู่ในกรอบเดิมๆ ไปไหนก็เหมือนนักโทษ 💡 บทวิเคราะห์เพิ่มเติม (Fact Check) เนื้อหาในคลิปเป็นการรวบรวมแนวคิดแบบ "Street Smart" หรือความฉลาดทางสังคม ผสมผสานกับปรัชญาจีนโบราณ (สังเกตจากบริบทเรื่องการค้าขายและการวางตัว) ✅ ข้อเท็จจริง เรื่องมารยาททางสังคม (Social Etiquette) เช่น การไม่พาคนนอกไปงานเลี้ยง หรือการไม่สอนลูกคนอื่น เป็นมารยาทสากลที่ควรทำ 💬 "คนเก่งไม่ได้สู้กันแบบเปิดหน้า แต่สู้กันด้วยความนิ่งและปัญญา" ใครนำไปปรับใช้ได้ถูกจังหวะ คนนั้นคือผู้ชนะในเกมสังคมค่ะ เขียนและเรียบเรียงโดย Lina Engword #จิตวิทยา #การพัฒนาตนเอง #ข้อคิดดีๆ #กฎแรงดึงดูด #LinaEngword #LinaEngwordสรุปให้ #SocialRules image
📈 เจาะลึกวิธีคิดเทรดเดอร์สาย "Bayesian" คิดแบบความน่าจะเป็น ไม่เดาทิศทางมั่วซั่ว! คุณเคยได้ยินคำว่า "Bayesian" ไหม? 🧐 ลอง Google ดูสิ! วันนี้ Lina Engword จะพาไปถอดรหัสกระบวนการคิดของเทรดเดอร์ที่ใช้หลักสถิติและความน่าจะเป็นในการเอาชนะตลาด ซึ่งเน้น "การจัดการความเสี่ยง" เป็นหัวใจสำคัญยิ่งกว่าการเก็งกำไร 💡 วิเคราะห์หลักคิดและการทำงาน 🔸 1. มองโลกแบบทวิลักษณ์ (Binary Narratives) ในหัวของเทรดเดอร์สายนี้ ไม่ได้ปักใจเชื่อทางใดทางหนึ่ง 100% เสมอ แต่จะมีฉากทัศน์ (Scenario) รองรับทั้ง 2 ด้าน 🔹 ตัวอย่างเช่น Bitcoin 🪙 อาจพุ่งไป $200,000 หรือร่วงเหลือ $30,000 ก็ได้ 🔹 รับฟังและวิเคราะห์ทั้งสองด้านอย่างจริงจัง แต่วางน้ำหนักการลงทุนไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ 🔸 2. ปรับน้ำหนักตามหน้างานจริง (Probability Adjustment) ขนาดของการเดิมพัน (Bet size) เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา โดยดูจาก "พฤติกรรมราคา vs ปัจจัยพื้นฐาน" 1️⃣ ถ้ามีข่าวดี (Bullish news) ออกมา 2️⃣ แต่ราคากลับอ่อนแรงลง (Price weakness) 3️⃣ นี่คือสัญญาณให้เพิ่มน้ำหนักความน่าจะเป็นในฝั่ง "ขาลง" ทันที 📉 🔸 3. กลยุทธ์การเข้าออเดอร์ (Execution Strategy) ต่อให้มั่นใจในทฤษฎีนั้นถึง 60-70% (ซึ่งถือว่าสูงที่สุดแล้วสำหรับสาย Bayesian) ก็จะ ไม่ เข้าเทรดทันที แต่จะรอ... 🎯 Asymmetric R-r จุดที่ความเสี่ยงต่ำแต่ผลตอบแทนสูง 🎯 Defined Risk จุดตัดขาดทุนที่ชัดเจน ถ้าราคาถึงจุดนี้ต้องยอมรับว่าคิดผิด และถอยกลับมาตั้งหลัก (เข้าเกียร์ว่าง) 🔸 4. กฏเหล็ก Risk Management (สำคัญที่สุด!) 🛡️ เทรดเดอร์มืออาชีพมองตัวเองเป็น "ผู้บริหารความเสี่ยง" (Risk Manager) ก่อนเป็นเทรดเดอร์เสมอ ⛔ ในการเดิมพันแต่ละครั้ง จะไม่เสี่ยงเกิน 0.8% ของพอร์ต (ไม่ถึง 1% ด้วยซ้ำ!) เพื่อรักษาเงินทุนให้คงอยู่ 📊 สรุปสไตล์การเทรด เน้นตลาด Futures, ETF และ Bitcoin โดยเฝ้าดูตลาดกว่า 40-50 ตัว แต่เทรดเฉลี่ยเพียง 3 ครั้งต่อปีต่อตัวเท่านั้น เน้นคุณภาพคับแก้ว ไม่เน้นปริมาณการเทรด 💬 ใครที่เทรดแบบใช้อารมณ์ ลองปรับมาใช้หลักการ Bayesian และคุมความเสี่ยงแบบนี้ดู พอร์ตของคุณอาจจะเปลี่ยนไปตลอดกาล! 👇 เพื่อนๆ มีเทคนิคคุมความเสี่ยงกันยังไง? คอมเมนต์แชร์กันได้เลย #TraderMindset #BayesianTrading #RiskManagement #Bitcoin #TradingStrategy #Investment #MoneyManagement #LinaEngword image
🎯 จุดเข้าเทรดไม่ใช่ "Edge" 🚫 หยุดตามหาสูตรลับ เพราะอาวุธที่ร้ายกาจที่สุดคือ "ตัวคุณเอง" 🧠 เคยไหม ❓ นั่งเฝ้าหน้าจอ รอสัญญาณซื้อขายที่สมบูรณ์แบบที่สุด คิดว่าถ้าเจอจุดเข้า (Entry) เทพๆ แล้วชีวิตจะเปลี่ยน... แต่ความเป็นจริงคือ กราฟเดียวกัน ระบบเดียวกัน คนหนึ่งกำไร แต่อีกคนขาดทุนยับเยิน วันนี้ Lina Engword จะพามาไขความลับที่เทรดเดอร์ระดับโลกเข้าใจตรงกัน นั่นคือ "Your Edge is YOU" ความได้เปรียบไม่ได้อยู่ที่กราฟ แต่อยู่ที่คนหลังหน้าจอ 📉 ทำไมแค่ "จุดเข้า" ถึงไม่ใช่คำตอบ การมีจุดเข้าเทรดที่ดี เป็นเพียงแค่ 10% ของสมการความสำเร็จเท่านั้น การโฟกัสแต่จุดเข้า คือการฝากความหวังไว้กับตลาด (สิ่งที่เราคุมไม่ได้) แต่ "Edge" หรือความได้เปรียบที่แท้จริง ต้องเกิดจากสิ่งที่เราคุมได้ 💯 💎 5 เสาหลักแห่ง "True Edge" ที่คุณต้องสร้างเอง 1️⃣ ศิลปะแห่งการปฏิเสธ (Defense is Offense) 🛡️ Edge ของคุณไม่ใช่การกระโดดใส่ทุกโอกาส แต่มันคือการ "ไม่เทรด" ในจุดที่ความเสี่ยงสูง หรือ Setup ไม่สวย 🔸 จำไว้ว่า กำไรที่รักษาไว้ได้ มีค่าเท่ากับกำไรที่หามาได้ การหลีกเลี่ยง Bad Trade คือกำไรทางอ้อมที่ดีที่สุด 2️⃣ ชนะศัตรูภายใน (Emotional Management) 🧘‍♂️ ตลาดหุ้นไม่ได้สู้กับเรา แต่เรากำลังสู้กับ Ego และความโลภของตัวเอง 🔸 Edge คือความสามารถในการนิ่งสงบ เมื่อตลาดผันผวน และไม่ปล่อยให้อารมณ์มากดปุ่ม Buy/Sell แทนแผนการ 3️⃣ วินัยเหล็กและการทำซ้ำ (Discipline) 🤖 ระบบเทรดที่ดีแค่ไหน ก็ไร้ค่าถ้าคุณไม่ทำตาม 🔸 ความสม่ำเสมอในการทำตามแผน (Execution) แม้ในวันที่น่าเบื่อ หรือวันที่ตลาดบีบหัวใจ นั่นคือความได้เปรียบที่ AI ก็เลียนแบบมนุษย์ได้ยากในเรื่องของ "สัญชาตญาณที่ผ่านการฝึกฝน" 4️⃣ กระจกเงาสะท้อนผลงาน (Journaling) 📓 คนส่วนใหญ่เทรดแล้วลืม แต่ยอดฝีมือเทรดแล้วจด 🔸 การจดบันทึกและแก้ไขข้อผิดพลาด คือการลับมีดให้คมขึ้นทุกวัน Edge ของคุณจะเติบโตตามกองบันทึกการเทรดที่คุณสะสม 5️⃣ คณิตศาสตร์แห่งความอยู่รอด (Positive Expectancy) 🧮 ไม่ใช่แค่ชนะให้บ่อย แต่ต้องชนะให้คุ้ม (Risk Reward Ratio) 🔸 สมการความรวย 🟰 (กำไรตอนชนะ ➕) ต้องมากกว่า (ขาดทุนตอนแพ้ ➖) ในระยะยาว 💡 บทสรุปจาก Lina Engword เลิกมองหา "จอกศักดิ์สิทธิ์" ใน Indicator ตัวใหม่ แล้วหันกลับมามองในกระจก เพราะ "You are your own edge" คุณคือสินทรัพย์ที่มีค่าที่สุด (และเป็นความเสี่ยงสูงสุด) ของพอร์ตตัวเอง พัฒนาระบบความคิด ควบคุมอารมณ์ และมีวินัย... แล้วกำไรจะเป็นเพียงผลพลอยได้ของตัวตนที่ยอดเยี่ยมของคุณเองค่ะ 💸✨ ✒️ Lina Engword ➖ ➖ ➖ ➖ ➖ ➖ ➖ ➖ ➖ #LinaEngword #TradingMindset #จิตวิทยาการลงทุน #TraderLife #SelfDiscipline #Investment #RiskManagement #เตือนสติ #ข้อคิดการเงิน
มีจุดที่น่าสนใจคือ ชื่อเจ้าของวลีนี้จริงๆ แล้วคือ Robert Mercer (โรเบิร์ต เมอร์เซอร์) อดีต Co-CEO ของ Renaissance Technologies (ไม่ใช่ John) ซึ่งทำงานร่วมกับ Peter Brown ภายใต้การก่อตั้งของ Jim Simons ตำนานแห่งวงการคณิตศาสตร์และการเงินค่ะ Lina ได้เรียบเรียงประเด็นนี้ใหม่ให้เข้าใจง่าย กระชับ และทรงพลัง พร้อมสำหรับการโพสต์ลงโซเชียลตามนี้เลยค่ะ 👇 🧠 ความลับของ "พระเจ้าแห่งควอนท์" 🤑 ชนะแค่ 50.75% ก็ทำเงินล้านล้านได้? เคยเชื่อไหมว่า คนที่จะรวยระดับโลกจากการลงทุน ต้องแม่นยำราวจับวาง ต้องถูกทุกครั้ง หรือต้องรู้อนาคต 🔮 แต่วันนี้ Lina Engword จะพามาดูความจริงจากปากของ Robert Mercer ผู้บริหารกองทุน Renaissance Technologies (RenTech) กองทุนที่ใช้คณิตศาสตร์ทำเงินได้โหดที่สุดในโลก 🗣️ เขาเคยกล่าวประโยคทองคำไว้ว่า "เราถูกแค่ 50.75% ของเวลาทั้งหมด... แต่เราถูก 100% ใน 50.75% นั้น และคุณสามารถสร้างเงินพันล้านได้ด้วยวิธีนี้" ฟังดูเหมือนน้อยใช่ไหมคะ? ผิดแค่ครึ่ง ถูกแค่ครึ่งนิดๆ แต่ทำไมถึงรวยมหาศาล? 💸 📉 วิเคราะห์เบื้องหลังตัวเลข 50.75% 🔹 พลังของ "แต้มต่อ" (The Edge) ในโลกของการเทรดด้วยความเร็วสูง (High-Frequency Trading) หรือ Quant Fund พวกเขาไม่ได้หากำไรคำโตจากการฟลุ๊ค แต่เขาหา "ส่วนต่างเล็กๆ" (Edge) ที่เหนือกว่าตลาด สมมติว่าโยนหัวก้อย โอกาสคือ 50/50 แต่ถ้าคุณมีกลยุทธ์ที่ทำให้โอกาสชนะเป็น 50.75% ส่วนต่างเพียง 0.75% นี่แหละ คือขุมทรัพย์! เพราะเมื่อคูณด้วยจำนวนการเทรดเป็นล้านๆ ครั้งต่อวัน ผลลัพธ์ทบต้นจะกลายเป็นกำไรมหาศาลแบบที่ใครก็ตามไม่ทัน 🔹 กฎของจำนวนมาก (Law of Large Numbers) คาสิโนรวยไม่ใช่เพราะโกง แต่เพราะเขามีแต้มต่อทางสถิติ (House Edge) เล็กน้อยในทุกเกม RenTech ก็ทำตัวเป็นเจ้ามือในตลาดหุ้น โดยใช้คณิตศาสตร์สร้างแต้มต่อนั้นขึ้นมา 🚫 กับดักความสมบูรณ์แบบ หลายคนพยายามหา "สูตรลับ" ที่ต้องชนะ 90-100% ซึ่งในโลกความเป็นจริงมันไม่มีอยู่จริง การพยายามทำให้ถูกทุกครั้ง มักนำไปสู่ความเครียด และการตัดสินใจที่ผิดพลาด (Overfitting) 💡 บทสรุปจาก Lina Engword เราไม่จำเป็นต้องเป็นอัจฉริยะที่รู้ทุกเรื่อง หรือชนะทุกครั้งเพื่อให้ประสบความสำเร็จ 1️⃣ หา Edge ของตัวเองให้เจอ 🔸 แค่เก่งกว่าค่าเฉลี่ยเพียงนิดเดียวก็พอ 2️⃣ ทำซ้ำอย่างสม่ำเสมอ 🔸 ความสำเร็จไม่ได้เกิดจาก "โชคใหญ่" ครั้งเดียว แต่เกิดจากชัยชนะเล็กๆ ที่สะสมกันเป็นล้านครั้ง 3️⃣ บริหารความเสี่ยง 🔸 แม้จะชนะแค่ 50.75% แต่ถ้าบริหารหน้าตักไม่ดี ก็เจ๊งได้เหมือนกัน เลิกกดดันตัวเองให้ต้อง Perfect แล้วหันมาโฟกัสที่ "ความน่าจะเป็น" และ "ความสม่ำเสมอ" กันดีกว่าค่ะ 🚀 ✒️ Lina Engword ➖ ➖ ➖ ➖ ➖ ➖ ➖ ➖ ➖ #LinaEngword #RenaissanceTechnologies #JimSimons #RobertMercer #QuantitativeTrading #Mindset #การลงทุน #ข้อคิดธุรกิจ #StatisticalArbitrage image