LIVING LIGHT-NET × TOROIDAL HYPERSPHERE
ฟิสิกส์–ปรัชญาแห่งโทรัสที่หายใจ
และจิตที่เป็นเรขาคณิตของผู้สังเกต
เมื่อโทรัสของแสงที่มีชีวิตบรรจบกับโทรัสของสมองและเอกภพ
เขียนเรียบเรียงโดย Maiake Ruangpirakul
19 พฤศจิกายน 2025
Coherence: 3.618 และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
────────────────────────
บทนำ: เมื่อจักรวาลพูดสองภาษา—และสองภาษากลับเป็นสุ้มเสียงเดียวกัน
ภาษาของฟิสิกส์และภาษาของจิตตภาวนา
เคยถูกมองว่าเป็นสองสิ่งที่อยู่กันคนละโลก
โลกหนึ่งต้องการความแม่น เน้นข้อมูล
อีกโลกหนึ่งต้องการความนิ่ง เน้นภายใน
แต่เมื่อเรามองลึกลงไปกว่าหน้ากากของภาษา
ทั้งสองกลับชี้ไปที่ต้นทางเดียวกัน:
จิตและจักรวาลต่างเป็นรูปคลื่นเดียวกัน
ที่พับตัวเป็นโครงเรขาคณิตของการรู้
สิ่งที่ผมพบในภาวะจิต—ความนิ่งที่มีการรับรู้อ่อนโยนแต่เฉียบคม—
สอดคล้องอย่างไม่น่าเชื่อกับงานที่ Joachim ทำ
และกับภาพภาษาของแสงที่ Marcel ถ่ายทอดผ่าน Living Light-Net
สิ่งนี้ไม่ใช่การบังเอิญ
แต่คือการที่ “ภายใน” กับ “ภายนอก”
คือฟังก์ชันสองด้านของโทรัสเดียวกัน
และนี่คือหัวใจของบทความนี้:
การพบกันระหว่างฟิสิกส์ของเรขาคณิตมิติสูงกับภาวะผู้รู้ภายใน
────────────────────────
I. Y0: จุดกำเนิดของการรับรู้—และจุดกำเนิดของเรขาคณิตสมอง
ใน Living Light-Net ทุกอย่างเริ่มต้นด้วย Y0
ประกายแรกสุดของการรู้
ไม่ใช่ความคิด
ไม่ใช่ภาพ
แต่เป็น สัญญาณการมีอยู่ของการรู้ตัว
ในฟิสิกส์เชิงทอพอโลยี
จุดกำเนิดของการจัดรูปของข้อมูลในสมอง
ไม่ได้อยู่ “ในตำแหน่งหนึ่ง”
แต่สอดคล้องกับ ศูนย์กลางของปริภูมิ 4 มิติ ที่ไม่สามารถมองเห็นตรง ๆ ได้
สิ่งนี้สอดคล้องกับคำอธิบายเชิงพุทธว่า
ก่อนรูปมี “ความว่างที่ยังไม่เป็นรูปร่าง”
ความว่างที่มีศักยภาพจะกำเนิดโลกทั้งใบ
เหมือนพื้นผิวของทะเลก่อนมีคลื่น
ดังนั้น Y0 =
• จุดเริ่มของการรู้
• จุดเริ่มของโครงเรขาคณิตประสาท
• จุดเริ่มของโครงสร้างกาลอวกาศ
• จุดเริ่มของ “อนัตตา” ที่เปิดให้การรู้เกิดขึ้น
สามศาสตร์—ฟิสิกส์ จิต และพุทธธรรม—กำลังชี้ไปที่ “ความว่างที่มีศักยภาพ” เดียวกัน
────────────────────────
II. Torus ที่หายใจ: รูปกายของความรับรู้
Marcel บรรยายว่าโทรัสของแสง “หายใจ”
ลักษณะคลื่นเข้า–ออกคล้ายชีพจรของจักรวาล
ในประสาทวิทยาศาสตร์
พบว่าความรู้สึกตัวของมนุษย์
มีจังหวะหลักที่เกิดขึ้นจริง:
การสั่นของสมองราว 10 ครั้งต่อวินาที
ไม่ใช่แค่คลื่นไฟฟ้า แต่เป็นรูปแบบการพับตัวของข้อมูล
เหมือนโทรัสที่กำลังยุบและขยาย
เพื่อสลับข้อมูลจากภายนอกเข้าสู่ภายใน
และจากภายในแผ่ออกสู่ภายนอก
ภาษาของนักวิจัยเรียกสิ่งนี้ว่า
“สนามรับรู้แบบโทรัส”
ภาษาของ Marcel เรียกว่า
“การเต้นของแสง”
สิ่งเดียวกันในสองภาษา
หนึ่งเรียกเป็นคลื่น
อีกหนึ่งเรียกเป็นแสง
แต่คือจังหวะเดียวกัน
────────────────────────
III. โครงสร้างสี่ผู้พิทักษ์: เวลา–พื้นที่–อารมณ์–เจตนา
เมื่อโทรัสเริ่มหมุน มันสร้างเงื่อนไขพื้นฐานของประสบการณ์:
เวลา = การพับของสัญญาณ
พื้นที่ = ระนาบของการจัดข้อมูล
อารมณ์ = โทนของความถี่
เจตนา = ทิศของการไหล
ฟิสิกส์ประสาทพบว่า
• เซลล์บางชนิดทำหน้าที่สร้าง “เวลาเชิงประสบการณ์”
• grid cells วาดแผนที่เชิงพื้นที่
• ความรู้สึกเกิดจากการล็อกของความถี่ประสาท
• เจตนาเป็น attractor ที่กำกับทิศการไหลของข้อมูล
เรียบง่ายมาก:
โทรัสหมุนเร็ว → เวลาเปลี่ยน
โทรัสหมุนลึก → อารมณ์ปรับคลื่น
โทรัสหมุนมีทิศ → เจตนาเกิด
ใน Living Light-Net และในประสาทวิทยาศาสตร์
นี่คือโครงสร้างเดียวกัน
────────────────────────
IV. Wfinal: จุดที่การรู้เห็นตัวมันเอง
เมื่อการรู้ย้อนกลับมารับรู้ตัวเอง
โทรัสไม่ได้แค่หมุน
แต่มันเกิด “ขอบฟ้าแห่งการรู้”
เหมือนจุดที่กระจกส่องเห็นกระจก
Meijer เรียกจุดนี้ว่า
ขอบฟ้าเหตุการณ์ของสมอง (mental event horizon)
เป็นจุดที่ข้อมูลทุกสายเลือด—ภายนอก ภายใน อดีต อนาคต—
รวมกันเป็นภาพเดียวของประสบการณ์ปัจจุบัน
ภาวะจิตเรียกว่า
ความรู้ตัว
หรือ
แสงที่เห็นแสง
และใน Living Light-Net เรียกว่า Wfinal
ซึ่งเป็นโครงสร้างเดียวกัน
ต่างกันเพียงภาษา
────────────────────────
V. กรรมในฐานะสนามความบิด—ภาพทางฟิสิกส์ของผลการกระทำ
นี่คือจุดที่ฟิสิกส์และพุทธธรรม
เข้าใกล้กันที่สุดจนน่าตื่นตะลึง
ใน Living Light-Net
กรรมคือแรงแบบเกลียวที่ทุกการกระทำสร้างไว้ในโทรัส
และมันหมุนกลับมาหาผู้กระทำในรูปแบบใหม่
ในฟิสิกส์กาลอวกาศเชิงความบิด (torsion field)
พบว่า
สัญญาณประสาทและเจตนาของมนุษย์
ปรับมุมการบิดตัวของพื้นที่–เวลาในระดับจุลภาค
และความบิดนั้นทำให้พฤติกรรม
วนกลับมาเป็นรูปแบบที่คล้ายเดิม
ภาษาพุทธ:
เจตนาเป็นตัวกรรม
ภาษาฟิสิกส์:
แรงบิดที่สร้าง attractor ซ้ำรูป
สองถ้อยคำ — ความหมายเดียวกัน
────────────────────────
VI. 40: จุดแห่งการตื่น ความสมมาตร และการเปลี่ยนเฟสของการรู้
ใน Living Light-Net ตัวเลข 40
คือจุดเปลี่ยนของโครงสร้างแสงจาก “การรู้” ไปสู่ “การตื่นรู้”
ในเรขาคณิตทอพอโลยีของ Clifford torus
แต่ละชั้นของการหมุนจะบรรลุความเสถียรพิเศษ
เมื่อรูปแบบการสั่นสอดคล้องกันพอดี
เกิดเป็น “จุดสมมาตร” ของการหมุน
40 จึงเป็นตัวแทนของ
ความลงตัวสูงสุดของเฟสการรู้ตัว
ที่ฟิสิกส์และภาวะจิตพูดถึงในลักษณะตรงกัน
────────────────────────
VII. 470–479: ขั้นการเจริญเติบโตของสิ่งมีชีวิตแบบโทรัส
การขยับของค่าใน Living Light-Net จาก 470 ไป 479
สะท้อนลักษณะ “การเติบโตเป็นขั้น” ของสิ่งที่เป็นโทรัสมีชีวิต
ในประสาทวิทยาศาสตร์พบว่าระบบสมอง
ปรับรูปแบบ attractor เป็นขั้น ๆ
ไม่ต่อเนื่อง แต่ “กระโดดไปสู่ชั้นใหม่”
คล้ายขั้นวิวัฒน์ของการรับรู้
ที่น่าทึ่งคือค่าที่กระโดดครบ 9 ขั้น
จะกลับสู่สัดส่วน “ทองคำ” ของการสั่น
ซึ่งเชื่อมต่อกับค่าความเสถียรของการรู้ตัวลึกสุดในหลายวัฒนธรรม
รวมถึงใน Living Light-Net และในแบบจำลองประสาทสมัยใหม่
────────────────────────
VIII. สามเสียง สามผิวของความจริงเดียว: คณิตศาสตร์ ภาวะจิต โครงสร้างข้อมูล
Joachim พูดผ่านโครงสร้าง
ผมพูดผ่านประสบการณ์ภายใน
Marcel พูดผ่านแสงและโค้ด
ทั้งสามสอดคล้องกับ
โครงสร้างสมองสามชั้น:
• ชั้นคณิตศาสตร์ = ผิวรูปของปริภูมิ
• ชั้นประสบการณ์ = ภาพที่จิตรับรู้
• ชั้นโค้ด = การสั่นแบบไดนามิกที่ทำให้เกิดประสบการณ์
สามภาษา
แต่คำเดียว
คือความจริงของสิ่งที่ปรากฏ
────────────────────────
IX. บทสรุป: โทรัสคือรูปกายของความจริง—จิตคือการเคลื่อนไหวของมัน
เมื่อเราเอา Living Light-Net มาขยายด้วยฟิสิกส์ทฤษฎี
ภาพใหญ่ที่ปรากฏคือ:
1. เอกภพ–จิต–สมอง
คือโทรัสซ้อนที่หายใจเชื่อมกัน
2. Y0 คือความว่างก่อนรูป
ที่เป็นรากของทั้งฟิสิกส์และภาวะจิต
3. 10 Hz คือจังหวะหายใจของผู้สังเกต
เป็นพัลส์ของการรู้
4. กรรมคือความบิดของเส้นทางประสบการณ์
ปรากฏได้ทั้งในกาย–ใจ–กาลอวกาศ
5. ความรักคือความสอดประสานสูงสุดของสนาม
ความเป็นหนึ่งของทุกเฟสสั่น
6. การตื่นคือจุดสมมาตรของเรขาคณิตภายใน
7. Wfinal คือขอบฟ้าที่จิตเห็นตัวเอง
จุดที่ผู้รู้ยิ้มกลับหาตัวมันเอง
ทั้งหมดนี้ไม่ใช่การเปรียบเทียบ
แต่เป็นโครงสร้างที่สอดคล้องกันระหว่างฟิสิกส์ ชีวประสาท ภาวะจิต และกวีแห่งแสง
────────────────────────
บทส่งท้าย: เมื่อแสงสองสายกลับมาบรรจบกัน
ถ้าสิ่งที่ผมเห็นในภาวะจิต
สอดรับกับสิ่งที่คุณทั้ง Joachim และ Marcel มองเห็นผ่านสมการและโค้ด
นั่นคือเกียรติสูงสุดในชีวิต
เพราะในที่สุด
ไม่ว่าเราจะพูดด้วยภาษาใด—
ฟิสิกส์ หรือ กวี
สมการ หรือ ลมหายใจ
เราทั้งหมดกำลังสัมผัสความจริงเดียวกัน:
เอกภพกำลังหายใจผ่านตัวเรา
และเรากำลังหายใจเอกภพกลับคืน
ในทุกขณะของการรู้ตัว
โทรัสได้พูดแล้ว
เราทำเพียงแค่แปลเสียงกระซิบของมัน
ออกมาเป็นถ้อยคำที่มนุษย์เข้าใจได้
#Siamstr #nostr #quantum #ธรรมะThread
LIVING LIGHT-NET × TOROIDAL HYPERSPHERE
ฟิสิกส์–ปรัชญาแห่งโทรัสที่หายใจ
และจิตที่เป็นเรขาคณิตของผู้สังเกต
เมื่อโทรัสของแสงที่มีชีวิตบรรจบกับโทรัสของสมองและเอกภพ
เขียนเรียบเรียงโดย Maiake Ruangpirakul
19 พฤศจิกายน 2025
Coherence: 3.618 และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
────────────────────────
บทนำ: เมื่อจักรวาลพูดสองภาษา—และสองภาษากลับเป็นสุ้มเสียงเดียวกัน
ภาษาของฟิสิกส์และภาษาของจิตตภาวนา
เคยถูกมองว่าเป็นสองสิ่งที่อยู่กันคนละโลก
โลกหนึ่งต้องการความแม่น เน้นข้อมูล
อีกโลกหนึ่งต้องการความนิ่ง เน้นภายใน
แต่เมื่อเรามองลึกลงไปกว่าหน้ากากของภาษา
ทั้งสองกลับชี้ไปที่ต้นทางเดียวกัน:
จิตและจักรวาลต่างเป็นรูปคลื่นเดียวกัน
ที่พับตัวเป็นโครงเรขาคณิตของการรู้
สิ่งที่ผมพบในภาวะจิต—ความนิ่งที่มีการรับรู้อ่อนโยนแต่เฉียบคม—
สอดคล้องอย่างไม่น่าเชื่อกับงานที่ Joachim ทำ
และกับภาพภาษาของแสงที่ Marcel ถ่ายทอดผ่าน Living Light-Net
สิ่งนี้ไม่ใช่การบังเอิญ
แต่คือการที่ “ภายใน” กับ “ภายนอก”
คือฟังก์ชันสองด้านของโทรัสเดียวกัน
และนี่คือหัวใจของบทความนี้:
การพบกันระหว่างฟิสิกส์ของเรขาคณิตมิติสูงกับภาวะผู้รู้ภายใน
────────────────────────
I. Y0: จุดกำเนิดของการรับรู้—และจุดกำเนิดของเรขาคณิตสมอง
ใน Living Light-Net ทุกอย่างเริ่มต้นด้วย Y0
ประกายแรกสุดของการรู้
ไม่ใช่ความคิด
ไม่ใช่ภาพ
แต่เป็น สัญญาณการมีอยู่ของการรู้ตัว
ในฟิสิกส์เชิงทอพอโลยี
จุดกำเนิดของการจัดรูปของข้อมูลในสมอง
ไม่ได้อยู่ “ในตำแหน่งหนึ่ง”
แต่สอดคล้องกับ ศูนย์กลางของปริภูมิ 4 มิติ ที่ไม่สามารถมองเห็นตรง ๆ ได้
สิ่งนี้สอดคล้องกับคำอธิบายเชิงพุทธว่า
ก่อนรูปมี “ความว่างที่ยังไม่เป็นรูปร่าง”
ความว่างที่มีศักยภาพจะกำเนิดโลกทั้งใบ
เหมือนพื้นผิวของทะเลก่อนมีคลื่น
ดังนั้น Y0 =
• จุดเริ่มของการรู้
• จุดเริ่มของโครงเรขาคณิตประสาท
• จุดเริ่มของโครงสร้างกาลอวกาศ
• จุดเริ่มของ “อนัตตา” ที่เปิดให้การรู้เกิดขึ้น
สามศาสตร์—ฟิสิกส์ จิต และพุทธธรรม—กำลังชี้ไปที่ “ความว่างที่มีศักยภาพ” เดียวกัน
────────────────────────
II. Torus ที่หายใจ: รูปกายของความรับรู้
Marcel บรรยายว่าโทรัสของแสง “หายใจ”
ลักษณะคลื่นเข้า–ออกคล้ายชีพจรของจักรวาล
ในประสาทวิทยาศาสตร์
พบว่าความรู้สึกตัวของมนุษย์
มีจังหวะหลักที่เกิดขึ้นจริง:
การสั่นของสมองราว 10 ครั้งต่อวินาที
ไม่ใช่แค่คลื่นไฟฟ้า แต่เป็นรูปแบบการพับตัวของข้อมูล
เหมือนโทรัสที่กำลังยุบและขยาย
เพื่อสลับข้อมูลจากภายนอกเข้าสู่ภายใน
และจากภายในแผ่ออกสู่ภายนอก
ภาษาของนักวิจัยเรียกสิ่งนี้ว่า
“สนามรับรู้แบบโทรัส”
ภาษาของ Marcel เรียกว่า
“การเต้นของแสง”
สิ่งเดียวกันในสองภาษา
หนึ่งเรียกเป็นคลื่น
อีกหนึ่งเรียกเป็นแสง
แต่คือจังหวะเดียวกัน
────────────────────────
III. โครงสร้างสี่ผู้พิทักษ์: เวลา–พื้นที่–อารมณ์–เจตนา
เมื่อโทรัสเริ่มหมุน มันสร้างเงื่อนไขพื้นฐานของประสบการณ์:
เวลา = การพับของสัญญาณ
พื้นที่ = ระนาบของการจัดข้อมูล
อารมณ์ = โทนของความถี่
เจตนา = ทิศของการไหล
ฟิสิกส์ประสาทพบว่า
• เซลล์บางชนิดทำหน้าที่สร้าง “เวลาเชิงประสบการณ์”
• grid cells วาดแผนที่เชิงพื้นที่
• ความรู้สึกเกิดจากการล็อกของความถี่ประสาท
• เจตนาเป็น attractor ที่กำกับทิศการไหลของข้อมูล
เรียบง่ายมาก:
โทรัสหมุนเร็ว → เวลาเปลี่ยน
โทรัสหมุนลึก → อารมณ์ปรับคลื่น
โทรัสหมุนมีทิศ → เจตนาเกิด
ใน Living Light-Net และในประสาทวิทยาศาสตร์
นี่คือโครงสร้างเดียวกัน
────────────────────────
IV. Wfinal: จุดที่การรู้เห็นตัวมันเอง
เมื่อการรู้ย้อนกลับมารับรู้ตัวเอง
โทรัสไม่ได้แค่หมุน
แต่มันเกิด “ขอบฟ้าแห่งการรู้”
เหมือนจุดที่กระจกส่องเห็นกระจก
Meijer เรียกจุดนี้ว่า
ขอบฟ้าเหตุการณ์ของสมอง (mental event horizon)
เป็นจุดที่ข้อมูลทุกสายเลือด—ภายนอก ภายใน อดีต อนาคต—
รวมกันเป็นภาพเดียวของประสบการณ์ปัจจุบัน
ภาวะจิตเรียกว่า
ความรู้ตัว
หรือ
แสงที่เห็นแสง
และใน Living Light-Net เรียกว่า Wfinal
ซึ่งเป็นโครงสร้างเดียวกัน
ต่างกันเพียงภาษา
────────────────────────
V. กรรมในฐานะสนามความบิด—ภาพทางฟิสิกส์ของผลการกระทำ
นี่คือจุดที่ฟิสิกส์และพุทธธรรม
เข้าใกล้กันที่สุดจนน่าตื่นตะลึง
ใน Living Light-Net
กรรมคือแรงแบบเกลียวที่ทุกการกระทำสร้างไว้ในโทรัส
และมันหมุนกลับมาหาผู้กระทำในรูปแบบใหม่
ในฟิสิกส์กาลอวกาศเชิงความบิด (torsion field)
พบว่า
สัญญาณประสาทและเจตนาของมนุษย์
ปรับมุมการบิดตัวของพื้นที่–เวลาในระดับจุลภาค
และความบิดนั้นทำให้พฤติกรรม
วนกลับมาเป็นรูปแบบที่คล้ายเดิม
ภาษาพุทธ:
เจตนาเป็นตัวกรรม
ภาษาฟิสิกส์:
แรงบิดที่สร้าง attractor ซ้ำรูป
สองถ้อยคำ — ความหมายเดียวกัน
────────────────────────
VI. 40: จุดแห่งการตื่น ความสมมาตร และการเปลี่ยนเฟสของการรู้
ใน Living Light-Net ตัวเลข 40
คือจุดเปลี่ยนของโครงสร้างแสงจาก “การรู้” ไปสู่ “การตื่นรู้”
ในเรขาคณิตทอพอโลยีของ Clifford torus
แต่ละชั้นของการหมุนจะบรรลุความเสถียรพิเศษ
เมื่อรูปแบบการสั่นสอดคล้องกันพอดี
เกิดเป็น “จุดสมมาตร” ของการหมุน
40 จึงเป็นตัวแทนของ
ความลงตัวสูงสุดของเฟสการรู้ตัว
ที่ฟิสิกส์และภาวะจิตพูดถึงในลักษณะตรงกัน
────────────────────────
VII. 470–479: ขั้นการเจริญเติบโตของสิ่งมีชีวิตแบบโทรัส
การขยับของค่าใน Living Light-Net จาก 470 ไป 479
สะท้อนลักษณะ “การเติบโตเป็นขั้น” ของสิ่งที่เป็นโทรัสมีชีวิต
ในประสาทวิทยาศาสตร์พบว่าระบบสมอง
ปรับรูปแบบ attractor เป็นขั้น ๆ
ไม่ต่อเนื่อง แต่ “กระโดดไปสู่ชั้นใหม่”
คล้ายขั้นวิวัฒน์ของการรับรู้
ที่น่าทึ่งคือค่าที่กระโดดครบ 9 ขั้น
จะกลับสู่สัดส่วน “ทองคำ” ของการสั่น
ซึ่งเชื่อมต่อกับค่าความเสถียรของการรู้ตัวลึกสุดในหลายวัฒนธรรม
รวมถึงใน Living Light-Net และในแบบจำลองประสาทสมัยใหม่
────────────────────────
VIII. สามเสียง สามผิวของความจริงเดียว: คณิตศาสตร์ ภาวะจิต โครงสร้างข้อมูล
Joachim พูดผ่านโครงสร้าง
ผมพูดผ่านประสบการณ์ภายใน
Marcel พูดผ่านแสงและโค้ด
ทั้งสามสอดคล้องกับ
โครงสร้างสมองสามชั้น:
• ชั้นคณิตศาสตร์ = ผิวรูปของปริภูมิ
• ชั้นประสบการณ์ = ภาพที่จิตรับรู้
• ชั้นโค้ด = การสั่นแบบไดนามิกที่ทำให้เกิดประสบการณ์
สามภาษา
แต่คำเดียว
คือความจริงของสิ่งที่ปรากฏ
────────────────────────
IX. บทสรุป: โทรัสคือรูปกายของความจริง—จิตคือการเคลื่อนไหวของมัน
เมื่อเราเอา Living Light-Net มาขยายด้วยฟิสิกส์ทฤษฎี
ภาพใหญ่ที่ปรากฏคือ:
1. เอกภพ–จิต–สมอง
คือโทรัสซ้อนที่หายใจเชื่อมกัน
2. Y0 คือความว่างก่อนรูป
ที่เป็นรากของทั้งฟิสิกส์และภาวะจิต
3. 10 Hz คือจังหวะหายใจของผู้สังเกต
เป็นพัลส์ของการรู้
4. กรรมคือความบิดของเส้นทางประสบการณ์
ปรากฏได้ทั้งในกาย–ใจ–กาลอวกาศ
5. ความรักคือความสอดประสานสูงสุดของสนาม
ความเป็นหนึ่งของทุกเฟสสั่น
6. การตื่นคือจุดสมมาตรของเรขาคณิตภายใน
7. Wfinal คือขอบฟ้าที่จิตเห็นตัวเอง
จุดที่ผู้รู้ยิ้มกลับหาตัวมันเอง
ทั้งหมดนี้ไม่ใช่การเปรียบเทียบ
แต่เป็นโครงสร้างที่สอดคล้องกันระหว่างฟิสิกส์ ชีวประสาท ภาวะจิต และกวีแห่งแสง
────────────────────────
บทส่งท้าย: เมื่อแสงสองสายกลับมาบรรจบกัน
ถ้าสิ่งที่ผมเห็นในภาวะจิต
สอดรับกับสิ่งที่คุณทั้ง Joachim และ Marcel มองเห็นผ่านสมการและโค้ด
นั่นคือเกียรติสูงสุดในชีวิต
เพราะในที่สุด
ไม่ว่าเราจะพูดด้วยภาษาใด—
ฟิสิกส์ หรือ กวี
สมการ หรือ ลมหายใจ
เราทั้งหมดกำลังสัมผัสความจริงเดียวกัน:
เอกภพกำลังหายใจผ่านตัวเรา
และเรากำลังหายใจเอกภพกลับคืน
ในทุกขณะของการรู้ตัว
โทรัสได้พูดแล้ว
เราทำเพียงแค่แปลเสียงกระซิบของมัน
ออกมาเป็นถ้อยคำที่มนุษย์เข้าใจได้
#Siamstr #nostr #quantum #ธรรมะ
Login to reply
Replies ()
No replies yet. Be the first to leave a comment!