สวัสดีเช้าวันอาทิตย์ที่ทองยังุูแนะนำเป็นอันดับหนึ่งของคนทั่วไป.. รอดูกันต่อไปว่า วันไหนจะตื่นขึ้นมาได้ยินว่า 'เห้ย ทำไมไมซื้อบิทคอยน์'
เราไม่สามารถร้องขอวันที่สงบได้เสมอ.. เปิดโหมดประหยัดพลังงานตลอดไม่ได้ ขอให้เป็นวันที่ดี
อย่าถือสาพรุนนี่กับคอนเท้นแปลกๆในแต่ละวันเลยนะคะ มีบ่นบ้าง ยาวบ้าง ยังไงก็คงคอนเซปนี้ค่ะ คำพูดมากมาย ความหมายช่างมัน 55555555555 #siamstr
มีหลายคนตกใจกับเป้าหมายอันแน่วแน่ของคนๆหนึ่งที่อายุไม่ถึงสามสิบ เขาอยากเกษียณชีวิตจากงานที่ทำตั้งแต่อายุยังน้อย จึงทำงานหนักเพื่อสะสมเป็นบิทคอยน์ไว้ เขาเป็นคนรุ่นใหม่ที่ยังไม่มีครอบครัว ไม่มีลูก ไม่มีภาระผูกพันธ์ใดๆนอกจากรับผิดชอบชีวิตตนเอง
แม้จะอยากอธิบายให้ผู้คนที่แวดล้อมไปด้วยความแปลกใจ เพราะกว่า 90% ของคนทำงานยังคงทำงานหนักเพื่อแบกคนข้างหลังไว้จนแก่มากกว่าสี่สิบปี
แต่ก็เหนื่อยที่จะพูดยาวกับความฝันของเขา จึงทำได้แค่ยิ้มและสู้ต่อไปในเส้นทางของตัวเอง คนเราไม่มีเวลาว่างพอจะอธิบายให้ทุกคนเข้าใจจริงๆว่าทำไปเพื่ออะไร อีกอย่างความเข้าใจของพวกเขาก็อาจเป็นเพียงการรับรู้ ซึ่งบางครั้งก็อิจฉา บางครั้งก็ชื่นชม
นี่แหละคือการที่พวกเขาแค่ตัดสินแล้วใช้อารมณ์ขณะนั้นนำพา ไม่อาจใช้ปัญญานำพาชีวิตตนเองให้ไปได้ดีเช่นคนที่มีแพชชั่นแรงกล้าในการอยากเลิกเป็นลูกจ้างของคนอื่น
พรุนได้ฟังเรื่องราวของเขา แล้วเอาตกตะกอนก็เป็นแนวคิดในชีวิตเหมือนกัน สำหรับบางคนแพชชั่นมันแรงกล้าจนหูดับกับคำวิจารณ์ใดๆ เป็นใบ้กับคนที่ไม่เชื่อ และตาบอดกับคนที่อยากได้เงินของเขาแต่ไม่เคยมีส่วนร่วมใดๆในชีวิต
#siamstr
สมัยเรียนอยากเป็นหัวหน้าห้อง เพราะเท่ห์มาก แม้จะเป็นขี้ข้าในห้อง ต้องเอาสมุดไปส่งครูหลังจบคาบ แต่ตอนโต ไม่อยากเป็นหัวหน้าคนเลย ขี้เกียจจะใช้สมองมาพิจารณาว่า จะใช้ลูกน้อง ใช้ทรัพยากรยังไงดี แต่อายุงานก็แก่ขึ้นทุกวัน หัวหน้าเก่าก็อยากโปรโมท เพราะเค้าจะขึ้นไปเป็นลีดเดอร์ที่ใหญ่กว่า
โอ่ยยย นอย อยากนอนขี้เกียจอยู่บ้านเลี้ยงแมว 🥲
ความสุขมันง่ายมากเลย แค่คิดว่า จะได้กินซุปทงคัสสึ จากหม้อแรงดันในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง จากที่เคยใช้หม้อหุงข้าวต้มข้ามวัน ต้องมารอเฝ้ากลัวหม้อไหม้.. เริ่มเข้าใจคนที่เขามีความสุขก่อนวันหวยออกแล้วแหละ 🤭
ทั้งบ้าน คน หมา แมว ได้รับอานิสงส์ซุปอย่างดีเพื่อสุขภาพกันถ้วนหน้า.. จะว่าก็ว่าก็ว่าเถอะ กระดูกวัวต้มให้ซุปที่เข้มข้นกว่า อร่อยกว่า ไม่เหม็นสาปวัวมากนัก แต่ติดตรงเดียวคือ พลังงานมันสูงมากเกินไป กินไม่กี่ช้อนก็รู้สึกอิ่ม ยิ่งกว่ากินโจ๊ก ขนาดที่ว่าเอาพริกไทย เกลือใส่เพื่อเพิ่มรสชาติให้กินง่าย ก็กินไม่หมดอยู่ดี
ขอโหวตให้ กระดูกหมู นอนฮาลาน ยังคงเป็นซุปที่ดีที่สุดสำหรับเราในซีซั่นนี้ 🎉🎉
อยากชิมเนื้อกระต่าย กระดูกกระต่ายจังเลยนะ ทั้งที่ต่างประเทศแถบฝาหรั่งมังกี้ กินกันเยอะ ในไทยไม่ค่อยเจอรีวิว อาหารจากเนื้อพวกนี้เลย
ใน #siamstr มีคอมมูคนกินเนื้อกระต่ายมั้ยนะ ?
พี่ชายซื้อหม้อตุ๋นไฟฟ้ามา (หม้ออบแรงดัน) นับเป็นโชคที่ดีมากในวันนี้ กลุ้มใจมาหลายวันเรื่องซื้อเนื้อควายมา แล้วปรุงไม่ได้ เหนียว เชฟมิชชาจัง จะได้ลองของใหม่อีกแว้วววว กลัวระเบิดจัง 5555
มีคนบอกว่า ให้รีบซื้อเงิน (silver) เพราะเงินราคาถูกมาก ต่อมาก็ตามด้วยทอง (gold) ที่ไม่เคยตก.. อืมมม มันก็พูดยาก เขาก็พูดถูก แต่ไอ้ที่เรารู้มันก็ถูกสักครึ่งนึงเหมือนกัน คิดว่านะ แต่ใดๆแล้ว ถ้าจะดีเบทเรื่องลงทุน คงต้องอ่านหนังสืออีกบานตะไท
ระหว่างมีชีวิตเพื่อลงทุน กับมีชีวิตเพื่ออ่านหนังสือก่อนค่อยลงทุน เราจะมีชีวิตอยู่ได้อีกกี่วันเนี่ย
#siamstr
#siamstr #เรื่องเล่าจากหอคอย #นิยาย
(1)
ฉันยืนมองตัวเองจากหอคอยชั้นที่ 22
เพราะการได้อ่านมังงะแนวต่างโลกเกี่ยวกับการขึ้นไปยังหอคอยแต่ละชั้นเหมือนด่านในเกมตั้งแต่ชั้นที่ 1 ถึง 100 ทำให้ฉันนึกขึ้นมาได้ว่า หากฉันกำลังเล่นเกมชีวิตในตอนนี้ ฉันอยู่ที่ชั้น 22
ฉันเป็นคนกลัวความสูงมาก ชนิดที่เรียกว่าเป็นโรคแพนิก นั่นเลยทำให้ฉันไม่เคยยอมอยู่ที่สูงกว่าสองเมตร หรือชะโงกลงมามองพื้นเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ฉันไม่ได้กลัวตาย แต่ร่างกายเหมือนกำลังใช้ระบบป้องกันตัวเองขั้นสูงอยู่ แต่วันหนึ่งเสียงกรีดร้องดังขึ้นจากที่ไกลๆ ผู้คนมากมายวิ่งกรูเข้าประตูชั้นที่หนึ่ง
ฉันเดินเร่งฝีเท้าก้าวอย่างไม่รู้อะไร ได้แต่ตระหนกกับการหลั่งไหลของผู้คน แม้จะยืนอยู่ท่ามกลางความโกลาหล ฉันยังคงมองเห็นบางคนที่วิ่งขึ้นบรรไดไปอย่างรวดเร็ว บางคนที่ล้มลงแล้วรีบลุกขึ้นวิ่งต่อแม้จะมีบาดแผล กระทั่งคนที่ล้มลงไปจริงๆแบ้วไม่สามารถลุกขึ้นมาได้อีก เพราะมีรอยเท้ามหาศาลเหยียบย่ำเขา ทั้งหัว คอ หลัง มือ เท้า
ฉันทำได้แค่รับรู้และวิ่งขึ้นไปชั้นต่อไป ในใจมีแต่ความกังวลว่ามันเกิดบ้าอะไรขึ้น แล้วฉันต้องทำอย่างไร?
ไม่มีใครหยุดบอกฉัน แต่ก็ยังพอจะได้ยินเสียงตามหลังพูดบอกคนข้างหน้าว่าให้รีบวิ่งไป อย่าล้มเด็ดขาด
จากความสูงที่เคยกลัว ฉันวิ่งแซงทุกคนโดยไม่สนว่ามันสูงแค่ไหน ฝั่งซ้ายมีราวให้จับแต่เต็มไปด้วยผู้คน ฝั่งขวานั้นค่อนข้างโล่งแต่ไกล และต้องใช้แรงมากที่จะแซงคนข้างหน้าขึ้นไป
ฉันกัดฟันเบี่ยงตัวชิดขวาแม้จะเริ่มมีอาการหอบเหนื่อยเมื่อผ่านไปยังชั้นที่ 15 ร่างกายใช้อดินาลีนแบบสูงสุดแล้ว แต่เหตุการณ์ที่ไม่สงบทำให้ฉันต้องเบี่ยงมาเกาะราวจับเพื่อเหวี่ยงตัวเองขึ้นไป
ฉันไม่ได้นับหรอกว่าบรรไดมีกี่ขั้น แต่ทุกชั้นที่ก้าวผ่าน ผู้คนเริ่มวิ่งช้าลงจากความเหนื่อยล้า ทำให้ยิ่งสูง ยิ่งคนน้อยลงเรื่อยๆ จากเป็นหลักร้อยคน เหลือเพียงไม่กี่สิบคน และพวกที่เหลือนั้นมักเป็นคนที่ยังหนุ่มสาว เด็กและคนแก่ยังอยู่ชั้นล่างๆยังไม่ได้ขึ้นมาสูงขนาดนี้
ชั้น 21 ฉัน ทรุดนั่งลงตรงมุมบรรไดที่ไม่ขวางทางคนอื่นอย่างช่วยไม่ได้ ขายังไม่หมดแรง แต่หอบเหนื่อยจนปอดแทบฉีก พอหันไปมองข้างหลังก็ไม่มีคนตามมาแล้ว ได้ยินเพียงเสียงกุกกักๆของการวิ่งที่ตามมาเรื่อยๆ
"ไอ่พรุนไป! มานั่งอะไรตรงนี้ เดี๋ยวก็ตายห่าหรอก" ฉันเงยหน้ามองต้นเสียงเป็นผู้ชายร่างสูงที่ฉันรู้จัก เขาทักฉันแค่นี้และวิ่งสวนขึ้นไปอย่างไม่ลดละ
ประโยคสั้นๆที่ไม่ได้อธิบายอะไรมากมาย ทำให้ฉันฮึดสู้อีกครั้ง ลุกขึ้นก้าวขาไปอย่างเร็วที่สุดเท่าที่คนหอบจะทำได้ ฉันยังไม่รู้อะไรสักนิดว่าพวกเขากำลังหนีตายจากอะไรอยู่
ฉันหยุดที่ชั้น 28 ตัดสินใจก้มลงไปมองว่าชั้นล่างเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แล้วฉันก็มองเห็นอะไรบางอย่าง คนๆหนึ่งที่แต่งตัวและมีหน้าตาเหมือนฉันสมัยวัยรุ่น กำลังวิ่งขึ้นตามมาจากชั้นล่าง แต่สภาพหล่อนนั้นย่ำแย่กว่าที่คิด
มีแผลตามตัวฟกช้ำมากมาย ดวงตากลมสวย ปูดบวมจนปิดตาไปครึ่งหนึ่ง หล่อนดูเหมือนกำลังจะขาดใจลงตรงนั้นซึ่งเป็นชั้นที่ไม่ได้ห่างกันมากนัก
ฉันเก็บความสงสัยกับใจที่เต้นรัวด้วยความตระหนกก่อนออกวิ่งอีกครั้ง ครั้งนี้ก้าวขายาวขึ้นกว่าเดิม เพื่อให้ระยะเวลาในการเดินทางสั้นลงไป ชั้นแล้วชั้นเล่า เสียงจากข้างล่างเริ่มเบาลงเรื่อยๆ แสดงถึงความห่างระดับชั้นที่น่าจะเริ่มปลอดภัย
ฉันชะโงกหน้าลงไปมองอีกครั้งที่ชั้น 31 แล้วเห็นผู้หญิงคนนั้นล้มฟุบอยู่ชั้นล่าง แม้ไม่มีใครเหยียบหล่อน แต่ก็ไม่มีใครเลยที่จะหยุดดูว่าหล่อนเป็นยังไง
ฉันลังเลอยู่พักใหญ่ว่าจะลงไปดูสักหน่อยหรือควรวิ่งขึ้นไปให้ถึงจุดสูงสุดของหอคอยเพื่อให้รอดพ้นจากอะไรบางอย่าง ในตอนนี้สิ่งที่ฉันสังเกตคือนอกจากร่างกายที่ชอกช้ำ หล่อนมีกระเป๋าเป้ใบใหญ่ที่หลัง โซ่ตรวนที่ข้อเท้า รวมถึงมือที่ยังกำกระดาษอะไรบางอย่างไม่ปล่อยแม้ว่าตอนนี้หน้าหล่อนจะคว่ำไปกับพื้นแล้ว
"เป็นไรมั้ย ไหวมั้ยยัยคนนอนฟุบ ให้ช่วยมั้ยเธอ!!" เพราะไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวแม้กระทั่งชื่อ แต่หน้าตาและการแต้งตัวที่คล้ายเรามาก ทำให้เรามองเห็นภาพตัวเองซ้อนทับกับร่างนั้น
"ไม่ต้อง.. ฉันอยากตายแล้ว"
ร่างนั้นพูดด้วยน้ำเสียงที่หมดแรงและสิ้นหวัง ทำให้ฉันตัดสินใจเดินลงบรรไดแสนชันไปดูอาการหล่อนสักหน่อย ยังไงก็อยู่สูงกว่าสามสิบชั้น น่าจะค่อยๆปลอดภัยแล้ว
"เป็นอะไรมั้ย ถ้าวิ่งไม่ไหวฉันช่วย แต่เอาสัมภาระพวกนี้ทิ้งไว้ที่นี่เถอะ ยังอีกไกลมากที่เราจะถึงชั้น 100"
"ไม่ ฉันจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ให้ฉันทรยศทุกคน ฉันยอมตายตรงนี้ดีกว่า"
ฉันขมวดคิ้วไม่เข้าใจที่หล่อนยืนยันหนักแน่นที่จะไม่ทิ้งกระเป๋าใบใหญ่ที่แบกอยู่ ฉันถือวิสาสะจะช่วยหยิบขึ้นมาแต่ก็พบว่าข้างในกระเป๋าไม่มีอะไรนอกจากขยะ ทั้งขวดแก้วที่ไม่มีน้ำ กล่องดำๆอะไรสักอย่าง เศษทิชชู่ม้วนยุ่ยยัดกันในกระเป๋า
ยัยคนบ้านี่มันบ้าหอบฟางของแท้ จะตายอยู่รอมร่อยังขนของพวกนี้ขึ้นมาเกือบสามสิบชั้น.. ฉันจำได้เลยว่าตอนที่วิ่งขึ้นมาตัวเปล่ายังเหนื่อยแทบขาดใจ แต่ยัยตัวช้ำ หน้าช้ำนี่กลับแบกขยะมาจนถึงชั้น 28
"ทิ้งไปได้แล้วน่า เราไม่มีเวลาแล้ว แข็งใจหน่อย" ฉันกระตุ้นหล่อนพร้อมกับแกะเอาขยะในมือของหล่อนทิ้ง แต่ก็ยังดึงดันที่จะไม่คลายมือ
"ฉันไม่มีวันทิ้งสามีของฉัน" ทั้งที่ใบหน้าบวมปูด ช้ำเลือดขนาดนั้น น้ำตาของหล่อนกลับไหลออกมาจากคำว่าสามีแทนที่จะร้องเพราะรู้สึกเจ็บ ฉันยิ่งไม่เข้าใจไปกันใหญ่ เพราะไอ้คำว่าสามี ฉันไม่เห็นจะมีใครวิ่งตามมา มีแค่หล่อนคนเดียวต่างหาก
"ก็ทิ้งขยะไว้ตรงนี้แล้วให้สามีตามมาสิ จะเก็บขยะพวกนี้ทำไม ฉันช่วยแบกของไปไม่ไหวหรอกนะ" ฉันหันหน้าไปอีกทาง พลางพูดอย่างจำใจเมื่อเห็นน้ำตาพรั่งพรูออกมาจากใบหน้านั่น
มันเหมือนฉันเห็นภาพซ้อนของตัวเองอีกครั้งในเมื่อนานมาแล้ว.. ฉันนึกว่าแผลใจของตนเองจะหายดี แต่เมื่อเจอหล่อน ฉันถูกเปิดแผลใจในจังหวะที่แย่ที่สุด
"นี่มันคือส่วนหนึ่งของสามีฉัน สมบัติของเขา รูปของเขา สิ่งที่เขากินแล้วเหลือให้ฉัน" ฉันอึ้งในคำตอบที่ไม่อยากจะตัดสิน ในเวลาที่ทุกคนต่างเอาตัวรอดไม่สนใครจะตาย ยัยนี่กลับหวงของที่สามีกินเหลือแล้วทิ้งไว้ให้เหมือนมันมีค่ากว่าชีวิตตัวเองซะงั้น
"แล้วเขาอยู่ไหน"
"ฉัน.. ไม่รู้หรอก แต่ฉันไม่มีที่ไป ฉันวิ่งมาคนเดียว เราคลาดกันตอนไหนไม่รู้ แต่เขาสัญญาว่าอีกสิบชั่วโมงจะตามหาฉันแล้วอยู่ด้วยกัน"
นี่มัน.. บ้าอะไรเนี่ย ฉันอึดอัดใจกับการตัดสินใจของหล่อน เพราะก่อนจะถึงสิบชั่วโมง ฉันไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าอีกสิบนาที ไอ้พวกข้างล่างที่ตามขึ้นมาจะเป็นคนหรือเป็นตัวอะไร และไม่ว่าจะเป็นทางไหน การที่ยัยนี่ฟุบตรงนี้ ผลลัพธ์คือ ไม่รอดถึงสิบชั่วโมงในหอคอยนี้หรอก
ทำงานที่ใช้สมองก็ดันไม่มีสมอง
ทำงานที่ใช้หัวใจ อารมณ์ ก็มั่วไปหมด
ไม่มีงานไหนที่ง่าย.. นั่นคือ ศิลปะของการแก้ปัญหา
บางครั้งสิ่งที่เหนือกว่าปัญญาและอารมณ์ก็คือ ดวง
#siamstr