เจาะแผนเทรด BTCUSDT.P วันนี้ by Lina Engword! 🧐 (16 ต.ค. 68) สวัสดีค่ะเพื่อนๆ นักเทรด! วันนี้เรามาอัปเดตมุมมองและหาโอกาสเทรด BTC กันนะคะ ตลาดตอนนี้กำลังน่าสนใจเลยทีเดียว ไปดูแผนกันค่ะ! 🚀 ภาพรวมตลาด 📊 ภาพใหญ่ตลาดยังคงดูเป็น ขาลง (Bearish 📉) นะคะ แต่ในระยะสั้นอาจมีการดีดตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านก่อนลงต่อ ดังนั้นกลยุทธ์หลักของเราวันนี้คือ "รอ Short ที่แนวต้านสำคัญ" จะได้เปรียบกว่าค่ะ! 😉 Key Levels ที่ต้องจับตา 🎯 🔹 แนวต้านน่าสนใจ: $112,500 - $113,500 🔸 แนวรับสำคัญ: $110,000, $109,535 🔥 Daily Trade Setups ที่น่าสนใจ: 🔥 1️⃣ (Main Setup - High R:R): รอ Short ที่โซน $112,450 🔹 TP: $109,600 🔸 SL: $113,000 2️⃣ (Aggressive Setup): รอสัญญาณกลับตัวเพื่อ Short บริเวณ $111,900 🔹 TP: $110,100 🔸 SL: $112,300 3️⃣ (Counter-Trend - ความเสี่ยงสูง ⚠️): หากราคาย่อตัวแล้วกลับตัวที่ $110,500 อาจพิจารณา Long สั้นๆ 🔹 TP: $112,000 🔸 SL: $110,150 วางแผนและบริหารความเสี่ยง (MM) กันให้ดีนะคะทุกคน ขอให้เป็นวันที่ดีค่ะ! 💪 Lina Engword Disclaimer: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงความเห็นส่วนตัว ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจ #BTCUSDT #Bitcoin #Crypto #Trading #เทรดคริปโต #วิเคราะห์บิทคอยน์ #SMC #SmartMoneyConcepts #ICT #TradeSetup #LinaEngword

🚨 ด่วน! ตลาดคริปโตเผชิญวิกฤตครั้งประวัติศาสตร์ ล้างพอร์ตนักเทรดกว่า 1.6 ล้านราย มูลค่ากว่า $19.1 พันล้าน! 📉💥 ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ตลาดคริปโตได้จารึกสถิติใหม่ของการบังคับปิดสถานะ (Liquidation) สูงสุดตลอดกาล ด้วยมูลค่ารวมที่พุ่งทะลุ $19.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 6.8 แสนล้านบาท) สร้างความเสียหายอย่างมหาศาลแก่นักลงทุนกว่า 1.6 ล้านราย ทั่วโลก! เหตุการณ์นี้ถูกประเมินว่ารุนแรงยิ่งกว่าวิกฤต LUNA, การแพร่ระบาดของ COVID-19 และการล่มสลายของ FTX ที่เคยเกิดขึ้น 🔸 ข้อมูลความเสียหายและผลกระทบ 💔 🥇 อันดับ 1 ตลอดกาล การล้างพอร์ตครั้งนี้ในช่วงวันที่ 10-11 ตุลาคม 2025 ทำลายสถิติเหตุการณ์ Liquidation ครั้งใหญ่ที่สุดอย่างไม่เคยมีมาก่อน 💰 Long Positions โดนหนักสุด สถานะ Long (ที่เดิมพันว่าราคาจะสูงขึ้น) สูญเสียไปถึง $16.6 พันล้านดอลลาร์ (89.5% ของการล้างพอร์ตทั้งหมด) แสดงให้เห็นว่าตลาดเต็มไปด้วยการใช้ Leverage ในฝั่งขึ้นอย่างมาก 📉 Market Cap หายวับ มูลค่าตลาดรวมของคริปโตสูญหายไปประมาณ ~$400 พันล้านดอลลาร์ภายในไม่กี่ชั่วโมง 📊 เหรียญหลักและ Altcoin ร่วงหนัก Bitcoin (BTC) สูญเสีย $2.46 พันล้านดอลลาร์ Ethereum (ETH) สูญเสีย $2.24 พันล้านดอลลาร์ Altcoins อื่นๆ สูญเสียรวมกันกว่า $4.8 พันล้านดอลลาร์ 🔹 เบื้องลึกสาเหตุของความผันผวน 🧐 นักวิเคราะห์หลายสำนักและผู้เชี่ยวชาญจากชุมชนคริปโตได้ออกมาวิเคราะห์ถึงปัจจัยที่ทำให้เกิด "พายุสมบูรณ์แบบ" ครั้งนี้ 1️⃣ สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนจุดชนวน 🇺🇸🇨🇳 ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ขู่จะขึ้นภาษีนำเข้าจากจีนเพิ่มอีก 100% รวมถึงควบคุมการส่งออกซอฟต์แวร์สำคัญของสหรัฐฯ ซึ่งสร้างความตึงเครียดและกระตุ้นความกังวลในตลาดการเงินทั่วโลก แม้ว่าภายหลังจะยืนยันว่าจะมีการประชุมกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แต่ความไม่แน่นอนก็ส่งผลกระทบไปแล้ว 2️⃣ ภาวะ Government Shutdown ในสหรัฐฯ 🏛️ รัฐบาลสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะชัตดาวน์เป็นวันที่ 10 โดยไม่มีข้อสรุป ทำให้ประธานาธิบดีทรัมป์สั่งเริ่มกระบวนการเลิกจ้างพนักงานรัฐ ส่งผลให้เกิดความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจและทางการเมือง ยิ่งเพิ่มความกังวลให้กับนักลงทุน 3️⃣ ปัญหา Liquidity และ "Liquidation Cascade" ใน Altcoins 🌊 ผู้เชี่ยวชาญอย่าง Benjamin Cowen ชี้ว่าการอ้างถึงแค่เรื่องภาษีทรัมป์อาจเป็นเพียง "เรื่องเล่าหลอกๆ" (BS narrative) และตลาดคริปโตมักจะทำตามวัฏจักรของมันเอง โดยเฉพาะ Ethereum ที่มักจะมีการปรับฐาน 30% ในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม ขณะที่ Jackyi_ld ได้อธิบายว่า สาเหตุที่ Altcoin ร่วงลงอย่างรุนแรง (บางตัวกว่า 90%++) ไม่ได้มาจากข่าวทรัมป์เพียงอย่างเดียว แต่เกิดจาก Altcoin หลายตัวไม่มี Demand ที่แท้จริง และ Orderbook ตื้น (Liquidity ต่ำ) เมื่อ Exchange ใหญ่ๆ เช่น Binance ประสบปัญหา ผู้ดูแลสภาพคล่อง (Market Makers) อาจถอนตัวออกไป ทำให้ Orderbook Depth หายไปทันที ส่งผลให้ราคา Altcoin ดิ่งลงอย่างรวดเร็ว และเกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ที่เรียกว่า "Liquidation Cascade" เมื่อ Position ที่ใช้ Leverage สูงถูกล้างพอร์ตตามกันไป 4️⃣ ตลาดดั้งเดิมก็ไม่รอด 📉 ตลาดหุ้นหลักอย่าง Dow Jones, S&P 500 และ NASDAQ ต่างก็ปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญในวันที่ 11 ตุลาคม สะท้อนถึงการเทขายในสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก ในทางกลับกัน ทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ได้พุ่งทะลุ $4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง [ทองทะลุ 4,000 ดอลล์อีกครั้ง ทรัมป์ขู่ขึ้นภาษีจีนหนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย] ซึ่งได้รับแรงหนุนจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความไม่แน่นอน 🔹 มุมมองและบทเรียนสำหรับนักลงทุน 💡 Benjamin Cowen ย้ำว่า "Bitcoin เป็นตัวเลือกที่ดีกว่าเสมอ" เพราะช่วยลดความเสี่ยงด้าน Downside ในขณะที่ Altcoin มักจะเพิ่มความเสี่ยงเมื่อ Bitcoin Dominance สูงขึ้น โดย Altcoin หลายตัวทำจุดต่ำสุดใหม่เมื่อเทียบกับ Bitcoin ในช่วงนี้ Lina Engword ขอเน้นย้ำว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นเครื่องเตือนใจถึงความสำคัญของการบริหารความเสี่ยง โดยเฉพาะการใช้ Leverage และการศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูง ตลาดอาจต้องใช้เวลาอีก 2-3 วันในการปรับสมดุลและให้ผู้ดูแลสภาพคล่องกลับมาจัดระเบียบ Orderbook ใหม่ ก่อนที่จะเห็น "ราคาที่แท้จริง" ของสินทรัพย์เหล่านี้ #CryptoCrash #ตลาดคริปโต #Bitcoin #Ethereum #Altcoins #Liquidation #สงครามการค้า #USShutdown #การเงินโลก #LinaEngword

🚨 อัปเดตสถานการณ์ BTC/USDT ด่วน ❗ Bitcoin (BTC) ได้หลุดกรอบแนวโน้มขาขึ้น (Rising Channel) ในระยะสั้นแล้วนะคะ 📉 หลังจากที่ไม่สามารถผ่านแนวต้านสำคัญแถวๆ $124K ไปได้หลายครั้ง ทำให้ตอนนี้กราฟใน Timeframe 1H แสดงโมเมนตัมฝั่งขาลง (Bearish) อย่างชัดเจน 📉 สถานะปัจจุบัน 🔸 ราคาล่าสุด vants $121,350 (-1.5%) 🔸 ตอนนี้ราคากำลังพยายามกลับไปทดสอบโซนที่หลุดลงมาแถวๆ $121.5K 🔸 หากราคากลับขึ้นไปยืนเหนือโซนนี้ไม่ได้ อาจเป็นการยืนยันการลงต่อ 🐻 มุมมอง vants Bearish (มองลง) กลยุทธ์ vants Short หากราคายังอยู่ต่ำกว่า $121.3K เพื่อลุ้นเป้าหมายด้านล่าง 🎯 เป้าหมายแนวรับ 🔹 แนวรับแรก vants $118,000 🔹 แนวรับถัดไป vants $116,000 – $114,650 🛑 จุดตัดขาดทุน / ยกเลิกมุมมองนี้ เมื่อราคาสามารถกลับไปยืนเหนือ $124,100 ได้ การเทรดมีความเสี่ยงสูง เพื่อนๆ ควรวางแผนการเทรดและบริหารความเสี่ยง (Manage Risk) กันอย่างรอบคอบนะคะ ขอให้โชคดีในการเทรดค่ะ 💰 #LinaEngword #Bitcoin #BTC #Crypto #TechnicalAnalysis #Trading #คริปโต #บิทคอยน์ #วิเคราะห์บิทคอยน์ #กราฟเทคนิค #เทรดคริปโต

🐎💨 3 สินทรัพย์ "ม้าตัวแรง" ที่วิ่งแซงใครเพื่อนในปีนี้ ❗ เห็นตลาดช่วงนี้แล้วใจสั่นกันบ้างไหมคะ ❓ สินทรัพย์หลายตัวทำผลงานได้ดีจนน่าทึ่ง แต่ในความร้อนแรงก็แฝงไปด้วยความเสี่ยงที่เราต้องจับตา Lina Engword สรุปมาให้ดูกันค่ะ พบกับ 3 สินทรัพย์ตัวท็อปที่ผลตอบแทนโดดเด่น 🥇 ทองคำ (Gold) vants ทะยานขึ้นกว่า 46% 🪙 บิตคอยน์ (Bitcoin) vants วิ่งแรงราว 50-60% 📈 หุ้นกลุ่มมีม (Meme Stocks) vants พุ่งทะลุ 60% กูรูเตือนว่า "ทองคำ คริปโต และ Nasdaq อาจเป็นส่วนผสมที่ชนะในปีนี้ แต่คนที่ขึ้นขี่ม้าตัวนี้ต้องเตรียมพร้อมเต้นไวๆ เพราะตอนจบอาจรุนแรง" 💃🔥 ⚠️ อะไรคือสิ่งที่น่ากังวลที่สุด ❓ คำตอบคือ "วงจรปั่นกันเอง" ภายในอุตสาหกรรม AI 🤖 โดยเฉพาะบริษัทที่เป็นทั้งลูกค้าและซัพพลายเออร์ในตัวเอง เช่น AMD และ Nvidia สิ่งนี้เรียกว่า Circularity หรือวงจรที่อันตราย เพราะทำให้ตลาดดูดีเกินจริงจากการสร้างดีมานด์และซัพพลายเทียมขึ้นมา พูดง่ายๆ ก็คือ vants ราคาขึ้นโดยไม่มีพื้นฐานที่แข็งแรงมารองรับนั่นเองค่ะ 🕰️ บทเรียนจากประวัติศาสตร์ที่ไม่เคยเปลี่ยน สถานการณ์นี้คล้ายกับช่วงฟองสบู่ดอทคอมแตกในปี 2000 มาก ตอนนั้นใครออกมาเตือนก็ถูกมองเป็นตัวตลก วันนี้ประวัติศาสตร์อาจกำลังซ้ำรอย แค่เปลี่ยนชื่อจาก .com เป็น .ai คำพูดของ Paul Tudor Jones สะท้อนภาพได้ดีที่สุด vants "ราคาจะขึ้นไปตลอดกาลไม่ได้ ถ้าไม่มี 'เงินใหม่' เข้ามาเติม และ 'เรื่องเล่า' ที่หล่อเลี้ยงฟองสบู่... ก็จะไม่อยู่ไปตลอดกาล" 🧠 4 ข้อคิดสำหรับนักลงทุนยุคนี้ 1️⃣ ระวังความมั่นใจที่มากเกินไป vants ทุกฟองสบู่เริ่มจากคำว่า "ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อน" แต่สุดท้ายก็จบแบบเดิมเสมอ 2️⃣ อย่าหลงไปกับราคา vants ราคาที่วิ่งแรง ไม่ได้แปลว่ามูลค่าที่แท้จริงจะสูงตาม ยิ่งวิ่งเร็วเท่าไหร่ ความเสี่ยงก็ยิ่งไล่ตามทันเร็วขึ้น 3️⃣ รู้จักจังหวะถอนตัว vants การ "ออกจากตลาด" เร็วกว่าคนอื่นแค่นิดเดียว ดีกว่าการอยู่ร่วมขบวนไปจนถึงจุดจบเสมอ 4️⃣ มีสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยง vants เช่น ทองคำ หรือสินทรัพย์อื่นที่ไม่ผันผวนตามตลาดหุ้นโดยตรง สรุปส่งท้าย vants ฟองสบู่ไม่เคยส่งสัญญาณเตือนล่วงหน้า คำพูดสุดท้ายของ Paul Tudor Jones คือสิ่งที่นักลงทุนทุกคนควรจำให้ขึ้นใจ "นี่อาจเป็นยุคแห่งโอกาสมหาศาล... แต่ก็เป็นกับดักที่อันตรายที่สุดเช่นกัน" เพื่อนๆ จัดพอร์ตรับมือกับสถานการณ์นี้กันอย่างไรบ้างคะ มาแชร์มุมมองกันได้เลย 💬 #LinaEngword #การลงทุน #หุ้นเทค #AI #Bitcoin #ทองคำ #ตลาดหุ้น #ฟองสบู่ #ความเสี่ยง #วิเคราะห์หุ้น #นักลงทุน #AssetAllocation #PaulTudorJones

เทรดเดอร์ในตำนานสอนมวย! 🥊 อวดรวย = ไร้เกียรติ? 🧐 Peter L. Brandt เทรดเดอร์เก๋าเกมระดับตำนาน ผู้คร่ำหวอดในวงการมาหลายสิบปี ออกมาแชร์มุมมองสุดเฉียบคม 🔪 เปรียบเทียบวัฒนธรรมของเทรดเดอร์ยุคเก่ากับยุคใหม่ ที่ต่างกันราวฟ้ากับเหว! เทรดเดอร์สมัยก่อน 🎩 Lina Engword สรุปมุมมองของเขาได้ว่า ในอดีต เทรดเดอร์จะให้เกียรติกันและกันมาก พวกเขาจะไม่โห่ร้องดีใจอย่างออกนอกหน้าเมื่อทำกำไรมหาศาล 🤫 ทำไมนะเหรอ? 🔸 เพราะพวกเขารู้ดีว่า... ทุกครั้งที่มีผู้ชนะ ย่อมมีผู้แพ้เสมอ 💔 🔸 กำไรก้อนโตของเรา อาจหมายถึงการขาดทุนอย่างย่อยยับของอีกคนหนึ่ง หรืออาจถึงขั้นทำให้ใครบางคนต้องออกจากวงการไปเลยก็ได้ สิ่งที่เขาเห็นในเทรดเดอร์ยุคใหม่ (บางกลุ่ม) 📱 Brandt บอกว่าเขาสูญเสียความเคารพโดยสิ้นเชิง 🙅‍♂️ ให้กับเทรดเดอร์ที่ชอบ 🔹 อวดไลฟ์สไตล์หรูหรา โชว์ภาพกำไรในพอร์ต 🟢 🔹 ถ่ายรูปกับรถลัมโบร์กินี 🏎️ 🔹 เช่าเครื่องบินส่วนตัวแค่ 10 นาทีเพื่อถ่ายรูป ✈️ 🔹 ปาร์ตี้หรูๆ กับเพื่อนฝูง และซิการ์ราคาแพง 🍾 ในสายตาของเขา คนที่ทำพฤติกรรมเหล่านี้คือ "ผู้แพ้" (Loser) ไม่ว่าจะหาเงินได้มากแค่ไหนก็ตาม เพราะมันคือการแสดงออกที่ไร้ซึ่งเกียรติและไม่ให้ความเคารพต่อตลาดและผู้ร่วมทางคนอื่นเลย มุมมองนี้สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมการเทรดที่เปลี่ยนไปจริงๆ นะคะ จากโลกที่ให้เกียรติคู่แข่ง สู่ยุคที่เน้นภาพลักษณ์และความสำเร็จฉาบฉวย 씁쓸하네요 😔 แล้วเพื่อนๆ คิดเห็นยังไงกับเรื่องนี้บ้างคะ? #เทรดเดอร์ #PeterBrandt #ลงทุน #การลงทุน #อวดรวย #Mindset #ตลาดหุ้น #คริปโต #ให้เกียรติ #LinaEngword

ภาพเดียวชัดเจน! 🤯 ดอลลาร์กำลังเสียอำนาจ? สัดส่วนทองคำสำรองของสหรัฐฯ ในคลังโลกดิ่งเหว แตะระดับต่ำสุดในรอบ 90 ปี! จากที่เคยเป็นเจ้าโลก ถือทองคำในสัดส่วนสูงถึง 53% ในปี 1957... ตอนนี้ (ข้อมูลปี 2025) สหรัฐฯ เหลือทองคำในสัดส่วนเพียง 20% เท่านั้น 📉 Lina Engword ชวนดูกราฟนี้ไปด้วยกัน แล้วจะเห็นภาพชัดขึ้นมาก 👇 🔵 เส้นสีน้ำเงิน (โลก ไม่รวม US) 🔸 ปริมาณทองคำสำรองทั่วโลกพุ่งทะยานทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 49 ปี! โดยเฉพาะหลังวิกฤตการเงินโลก (GFC) ธนาคารกลางทั่วโลกเร่งช้อนซื้อทองคำเข้าคลังไม่หยุด 🟡 เส้นสีเหลือง (สหรัฐฯ) 🔸 คลังทองคำของสหรัฐฯ แทบไม่ขยับเลยตั้งแต่ปี 1971 หลังจากยกเลิกมาตรฐานทองคำ (Gold Standard) หรือพูดง่ายๆ ก็คือ "สหรัฐฯ เลือกที่จะไม่เข้าร่วมวงซื้อทองคำ" ในขณะที่คนอื่นกำลังไล่เก็บของ เรื่องนี้บอกอะไรเรา? 🤔 1️⃣ ทองคำกลับมาเฉิดฉาย ✨ ธนาคารกลางทั่วโลกกำลังใช้ทองคำเป็นเครื่องมือสำคัญในการกระจายความเสี่ยง และลดการพึ่งพาสกุลเงินดอลลาร์อย่างจริงจัง 2️⃣ เทรนด์ลดการพึ่งพาดอลลาร์ (De-dollarization) 💸 กราฟที่สวนทางกันนี้ คือหลักฐานเชิงประจักษ์ที่ชัดเจนที่สุด ว่าโลกกำลังมองหาสินทรัพย์อื่นมาคานอำนาจดอลลาร์ ผลกระทบที่อาจได้เห็นต่อจากนี้ 👇 📈 ทองคำ 🔸 ได้รับแรงหนุนระยะยาวจากความต้องการของธนาคารกลาง 📉 เงินดอลลาร์ 🔸 อาจเจอแรงกดดันต่อเนื่อง หากบทบาทของทองคำเพิ่มสูงขึ้น 🛡️ นักลงทุน 🔸 จะยิ่งมองทองคำเป็นสินทรัพย์หลบภัย (Hedge) จากความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์และเงินเฟ้อ แต่ก็ยังมีความเสี่ยงที่ต้องรู้ ⚠️ 🔹 ทองคำไม่จ่ายปันผล ถ้าดอกเบี้ยกลับมาสูงอีกครั้ง อาจกดดันราคาได้ 🔹 ข้อมูลทองคำสำรองของบางประเทศอาจไม่โปร่งใส 100% ภูมิทัศน์การเงินโลกกำลังเปลี่ยนไป และกราฟนี้ได้แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นั้นแล้วค่ะ #ทองคำ #GoldReserves #Dedollarization #การเงินโลก #เศรษฐกิจ #ลงทุน #ค่าเงินดอลลาร์ #CentralBanks #LinaEngword

โลกเทคฯ มันโหดจริงๆ! 🤯 เมื่อไม่กี่วันก่อนยังมี Startup หลายเจ้าที่กำลังพัฒนาเครื่องมือสร้าง AI Agents แบบลากวาง (drag-and-drop) เพื่อสร้าง workflow อัตโนมัติ แต่แล้ว... BOOM! 💥 OpenAI เปิดตัว AgentKit ในงาน DevDay 2025 กลายเป็นว่ายักษ์ใหญ่ลงมาเล่นเอง ส่งผลให้ Startup ที่ทำผลิตภัณฑ์คล้ายกันแทบจะล้มทั้งยืนในชั่วข้ามคืน 😱 แต่นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของ Startup... มันคือสัญญาณเตือนมาถึงพวกเราทุกคน 🔔 Lina Engword ขอสรุปผลกระทบที่จะเกิดขึ้นเป็น 2 ระลอกใหญ่ๆ 🌊 1️⃣ คลื่นลูกแรกกระทบตลาดแรงงาน 👨‍💼 🔸 คนที่รอด ➡️ คือคนที่สามารถสร้างและใช้ AI Agents ได้ แต่ต้องยอมรับว่าความคาดหวังด้าน Productivity จะสูงขึ้นแบบก้าวกระโดด ทำงานเก่งขึ้น 10 เท่าอาจเป็นมาตรฐานใหม่ 🔸 คนที่เสี่ยง ➡️ คือคนที่ไม่สามารถปรับตัวและเรียนรู้ทักษะนี้ได้ จะถูกแทนที่ด้วย AI ที่ทำงานได้ 24/7 ไม่มีวันหยุด 2️⃣ คลื่นลูกที่สองน่ากลัวกว่าที่คิด 🤖 🔹 เรื่องมันจะไม่หยุดแค่การแทนที่ "พนักงาน" แต่ AI Agents กำลังจะก้าวไปสู่การเป็น "ธุรกิจอัตโนมัติ" (Autonomous Businesses) 🔹 ลองจินตนาการถึงบริษัทที่ไม่มีมนุษย์เลย AI สามารถคิดกลยุทธ์, ทำการตลาด, ปิดการขาย, และบริหารจัดการทุกอย่างได้ด้วยตัวเองทั้งหมด 🔹 นี่คือการเปลี่ยนแปลงระดับโครงสร้าง ที่จะทำให้การ "หางาน" ของคนรุ่นต่อไปยากขึ้นแบบที่เราไม่เคยเจอมาก่อน โลกกำลังหมุนเร็วกว่าที่เราคิด การเตรียมความพร้อมให้ตัวเองและลูกหลานสำหรับอนาคตที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป... คือสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ครับค่ะ 🏃‍♀️💨 #OpenAI #AgentKit #AIAgents #AI #โลกเปลี่ยน #การเปลี่ยนแปลง #อนาคตการทำงาน #ตลาดแรงงาน #Disruption #TechNews #LinaEngword

หยุดเดาอนาคต 🔮 แล้วมาคิดแบบนักเทรดมือโปรกัน! หลายคนเข้ามาในตลาดเพราะอยากทำนายให้แม่นว่า 📈 "ไม้ต่อไปจะขึ้นหรือลง" 📉 แต่ความจริงแล้ว... การเทรดที่ยั่งยืนไม่ใช่การทำนายผลลัพธ์รายครั้ง สิ่งที่เรียกว่า "Edge" หรือความได้เปรียบในการเทรด ไม่ได้บอกว่าคุณจะชนะในไม้ต่อไป... แต่มันบอกว่า 🎲 "ในระยะยาว...โอกาสชนะเป็นของคุณ" เปลี่ยนมุมมองใหม่กันเถอะ 👇 🔸 เลิกพยายามคาดเดาทุกการเคลื่อนไหวของราคา เพราะไม่มีใครทำได้ 100% 🔸 เริ่มคิดถึง "ความน่าจะเป็น" (Probabilities) แทน 🔸 มีระบบเทรด (Trading System) ที่มี Edge หรือมีโอกาสชนะมากกว่าแพ้ในระยะยาว 🔸 จดจ่อกับการทำตามแผนอย่างมีวินัยในทุกๆ ครั้ง 🔸 เข้าใจว่าการขาดทุนเป็นส่วนหนึ่งของเกม แต่เมื่อเทรดไปหลายๆ ครั้งตามระบบ สถิติจะเข้าข้างเราเอง 💪 จำไว้ว่า... เราไม่ได้กำลังมองหาลูกแก้ววิเศษ แต่เรากำลังสร้างความได้เปรียบทางสถิติให้กับตัวเอง 🧠💹 Lina Engword #LinaEngword #เทรด #การลงทุน #หุ้น #คริปโต #Forex #นักเทรด #Mindset #จิตวิทยาการเทรด #ความน่าจะเป็น #TradingEdge

🚀 Bitcoin พุ่งไป 165,000 ดอลลาร์? JPMorgan ชี้เป้าสิ้นปี 2025! 📈 นักวิเคราะห์จาก JPMorgan สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ ออกมาเปิดเผยรายงานล่าสุดที่อาจทำให้ชาว Bitcoin ตื่นเต้น! พวกเขาคาดการณ์ว่าราคา Bitcoin อาจทะยานขึ้นไปแตะระดับ 165,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 6 ล้านบาท) ภายในสิ้นปี 2025 นี้เลยทีเดียว! 🤯 มุมมองนี้อ้างอิงจากการเปรียบเทียบ Bitcoin กับ "ทองคำ" 🪙 ในแง่ของความผันผวน (volatility-adjusted basis) ซึ่งเป็นวิธีการประเมินที่น่าสนใจมาก 🔸 หลักการคืออะไร? JPMorgan มองว่า ตอนนี้นักลงทุนใช้เงินทุนที่เสี่ยงกับ Bitcoin มากกว่าทองคำแค่ประมาณ 1.85 เท่าเท่านั้น ซึ่งเป็นอัตราส่วนที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ 🔸 ทำไมถึงมองว่าราคาจะพุ่ง? หากจะให้มูลค่าตลาดของ Bitcoin เทียบเท่ากับการลงทุนในทองคำของภาคเอกชน (เช่น ETF, ทองคำแท่ง) ที่มีมูลค่ามหาศาลถึง 6 ล้านล้านดอลลาร์ ราคาของ Bitcoin จะต้องพุ่งขึ้นอีกกว่า 42% จากปัจจุบัน ซึ่งคำนวณออกมาเป็นราคาเป้าหมายที่ 165,000 ดอลลาร์นั่นเอง! น่าสนใจว่า... ปลายปี 2024 ที่ผ่านมา 🗓️ การประเมินแบบเดียวกันนี้กลับชี้ว่า Bitcoin มีราคา "แพงเกินจริง" อยู่ที่ 36,000 ดอลลาร์ แต่ปัจจุบันสถานการณ์กลับตาลปัตร! ตอนนี้ Bitcoin ถูกมองว่า "ถูกกว่ามูลค่าที่ควรจะเป็น" ถึง 46,000 ดอลลาร์เมื่อเทียบกับทองคำ เรียกได้ว่าเป็นการกลับลำที่น่าจับตา และอาจเป็นสัญญาณบวกสำหรับนักลงทุนสายคริปโทฯ ก็เป็นได้! ต้องรอดูกันต่อไปว่าการคาดการณ์ครั้งนี้จะแม่นยำแค่ไหน! 👀 #Bitcoin #JPMorgan #Crypto #คริปโท #บิทคอยน์ #ลงทุน #การเงิน #ข่าวเศรษฐกิจ #LinaEngword

🇯🇵✨ ญี่ปุ่นได้นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์! ขอแสดงความยินดีกับคุณซานาเอะ ทาคาอิจิ (Sanae Takaichi) ที่ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) และกำลังจะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ 👩‍💼🇯🇵 นับเป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ที่สำคัญของญี่ปุ่น ที่จะได้มีผู้นำหญิงเป็นครั้งแรก ท่ามกลางเสียงชื่นชมและจับตามองจากทั่วโลก 🌏 คุณทาคาอิจิเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะนักการเมืองหญิงแกร่งสายอนุรักษ์นิยม และถูกมองว่าเป็นผู้สืบทอดอุดมการณ์ของอดีตนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ โดยเฉพาะในด้านนโยบายความมั่นคงและเศรษฐกิจที่แข็งกร้าว หรือที่รู้จักกันในชื่อ "อาเบะโนมิกส์" 📈 เราต้องมาติดตามกันต่อไปว่าภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรก ญี่ปุ่นจะมีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใดบ้าง แต่ที่แน่ๆ นี่คือก้าวสำคัญสำหรับผู้หญิงในเวทีการเมืองระดับโลกค่ะ 💪 #นายกหญิงคนแรกของญี่ปุ่น #SanaeTakaichi #Japan #การเมืองญี่ปุ่น #ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ #LDP #ซานาเอะทาคาอิจิ #LinaEngword