Thread

image #บทเรียนเรื่องการแบกน้ำหนักและการยืนหยัด เย็นวันหนึ่งผมยืนมองเสาไฟหน้าบ้านเก่าหลังหนึ่ง แดดสีทองส่องเฉียงลงมาโดนเสาปูนที่ขึ้นคราบดำ ลวดสายไฟพะรุงพะรังพุ่งออกไปหลายทิศ เหนือหลังคาสังกะสีที่เริ่มหม่น ต้นไม้ใหญ่ข้างบ้านผลัดใบจนเหลือแต่กิ่งแห้งๆ ทะลุขึ้นไปแตะท้องฟ้าสีน้ำเงินใส ภาพตรงหน้าหาใช่โปสเตอร์ท่องเที่ยวไม่ ทว่ามันเต็มไปด้วยเรื่องเล่าของการยืนอยู่ตรงนี้ เสาไฟต้นนี้อาจไม่เคยมีใครถ่ายรูปมัน ต้นไม้แห้งตรงนั้นก็ไม่ค่อยมีใครชื่นชมสักเท่าไหร่ ทั้งคู่มิได้มีหน้าที่ทำให้โลกสวยงามขึ้น มันมีหน้าที่รับน้ำหนัก.. เสาไฟแบกสายไฟไว้ทั้งซอย ต้นไม้เคยแบกใบ เคยให้ร่มเงาในฤดูที่ยังเขียวขจี บ้านเก่าข้างหลังแบกชีวิตคนทั้งครอบครัวมาหลายสิบปี ผมนึกถึงคนรอบตัวหลายคน คนที่อาจไม่โดดเด่น ไม่ขึ้นชื่อบนป้าย แต่ถ้าเขาถอนตัวออกไป ชีวิตของใครอีกหลายคนอาจจะสั่นคลอนทันที เราเคยมองพวกเขาด้วยสายตาแบบนี้บ้างไหม? เหมือนที่มองเสาไฟเก่าๆ ที่ยังยืนทำงาน เหมือนที่มองบ้านเก่าที่คอยรับฝน รับแดดแทนคนอยู่ข้างใน สายไฟข้างล่างพันกันยุ่งเหยิง ทว่าพอเงยหน้าขึ้น ท้องฟ้ากลับดูโล่งสะอาด ชีวิตเราก็คล้ายภาพนี้... ข้างล่างคือกองภาระ หนี้ งาน ความคาดหวัง สายแต่ละเส้นดึงเราไปคนละทิศละทาง บางวันเราจ้องแต่ความยุ่งเหยิงระดับสายตา จนลืมว่าเหนือหัวขึ้นไปอีกนิดเดียว ยังมีฟ้าให้หายใจอยู่ ไม่ใช่ให้เลิกใส่ใจภาระข้างล่าง ทว่าเพื่อเตือนตัวเองว่า... เวลาเหนื่อยเกินไป ลองถอยออกมาหนึ่งก้าว เงยหน้าอีกนิด ให้ใจได้เห็นท้องฟ้าในตัวเองบ้าง ฟ้ามิได้แก้ปมสายไฟ หากแต่มันช่วยมอบพื้นที่ว่างให้เราเรียงลมหายใจใหม่ เสาไฟต้นเดียวในภาพแบกสายไฟหลายเส้น บางเส้นมาจากบ้านหลังนี้ บางเส้นข้ามถนนไปเข้าอีกหลัง แต่ละเส้นมีเรื่องราวของมันเอง ผมนึกถึงตัวเราเวลาต้องรับบทหลายอย่าง เป็นลูก เป็นพ่อแม่ เป็นเพื่อน เป็นหัวหน้า เป็นลูกน้อง ทุกบทบาทส่งแรงดึงบางอย่างเข้ามาพันรอบตัว เสาไฟที่ดีต้องแข็งแรง ต่อให้แข็งสักเพียงใด ก็รับสายได้อย่างจำกัด ห้อยมากเกินไป วันหนึ่งก็เอน หรือหัก คนเราก็เช่นกัน... การรู้จักบอกตัวเองว่า เส้นนี้ขอไม่รับเพิ่มแล้ว นั่นแหละคือความแข็งแรง เป็นการถนอมเสาที่ทั้งซอยฝากไฟไว้ต่างหาก บางทีสิ่งที่ต้องกล้าทำหาใช่รับงานเพิ่ม ทว่าอาจเป็นการปีนขึ้นไปจัดสายที่พันกันมานาน แยกให้ออกว่าสายไหนคือหน้าที่ สายไหนคือความเคยชินที่ไม่มีใครใช้แล้ว มองเลยออกไปที่ต้นไม้แห้งข้างบ้านนั้น ผมเห็นภาพของฤดูกาลชัดขึ้น ครั้งหนึ่งมันเคยเขียวขจี เคยให้ร่ม เคยมีนกมาทำรัง วันนี้ยืนเปลือยกิ่งรอเวลาเปลี่ยนฤดูอีกครั้ง ตัวบ้านเองก็แก่ลงทีละปี คนในบ้านก็เช่นกัน สุดท้ายทุกสิ่งก็ต้องยอมรับความไม่จีรัง เสาไฟจะผุ ต้นไม้จะผลัดใบ บ้านจะเปลี่ยนมือ ทุกอย่างต้องยอมรับความไม่ถาวรเหมือนกัน พอคิดเช่นนี้แล้ว... ใจเลยอ่อนลงกับทั้งตัวเองและคนอื่น ถ้ายังต้องยืนร่วมเฟรมกันอยู่ในฤดูเดียวกัน ก็ขอใช้ช่วงเวลานี้ดูแลกันให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ยืนมองภาพนี้นานๆ แล้วได้บทสรุปเงียบๆ ว่า เราไม่จำเป็นต้องเป็นอะไรที่สวยงามให้คนชม ขอแค่เป็นเสาที่มั่นพอให้คนรอบข้างพิงได้บ้าง เป็นต้นไม้ที่ยืนอยู่แม้มีบางฤดูที่แห้งโกร๋น และอย่าลืมเผื่อฟ้าไว้เหนือหัวตัวเองเสมอ ในวันที่สายชีวิตพันกันยุ่ง ลองมองภาพนี้อีกที เสาไฟเก่า ต้นไม้แห้ง บ้านเก่า และฟ้ากว้าง ทุกอย่างต่างทำหน้าที่ของตัวเองเงียบๆ มันก็เพียงพอแล้วสำหรับการมีอยู่ในโลกใบนี้ “บางชีวิตเกิดมาเพื่อแบกสายไฟให้ทั้งซอยให้สว่าง บางชีวิตเกิดมาเพื่อเป็นเงาไม้ให้ใครสักคนได้หลบแดด ไม่จำเป็นต้องสวยที่สุด แค่ยืนอยู่ให้ไหว ทว่าต้องอยู่ด้วยกันให้ดีที่สุดในฤดูนี้” #JakkDiary #Siamstr

Replies (3)

การเรียนรู้ที่จะ say no เพื่อปกป้องเวลาและตัวตนของตนเอง เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าคนนั้นเป็นอย่างไร
Jakk Goodday's avatar Jakk Goodday
image #บทเรียนเรื่องการแบกน้ำหนักและการยืนหยัด เย็นวันหนึ่งผมยืนมองเสาไฟหน้าบ้านเก่าหลังหนึ่ง แดดสีทองส่องเฉียงลงมาโดนเสาปูนที่ขึ้นคราบดำ ลวดสายไฟพะรุงพะรังพุ่งออกไปหลายทิศ เหนือหลังคาสังกะสีที่เริ่มหม่น ต้นไม้ใหญ่ข้างบ้านผลัดใบจนเหลือแต่กิ่งแห้งๆ ทะลุขึ้นไปแตะท้องฟ้าสีน้ำเงินใส ภาพตรงหน้าหาใช่โปสเตอร์ท่องเที่ยวไม่ ทว่ามันเต็มไปด้วยเรื่องเล่าของการยืนอยู่ตรงนี้ เสาไฟต้นนี้อาจไม่เคยมีใครถ่ายรูปมัน ต้นไม้แห้งตรงนั้นก็ไม่ค่อยมีใครชื่นชมสักเท่าไหร่ ทั้งคู่มิได้มีหน้าที่ทำให้โลกสวยงามขึ้น มันมีหน้าที่รับน้ำหนัก.. เสาไฟแบกสายไฟไว้ทั้งซอย ต้นไม้เคยแบกใบ เคยให้ร่มเงาในฤดูที่ยังเขียวขจี บ้านเก่าข้างหลังแบกชีวิตคนทั้งครอบครัวมาหลายสิบปี ผมนึกถึงคนรอบตัวหลายคน คนที่อาจไม่โดดเด่น ไม่ขึ้นชื่อบนป้าย แต่ถ้าเขาถอนตัวออกไป ชีวิตของใครอีกหลายคนอาจจะสั่นคลอนทันที เราเคยมองพวกเขาด้วยสายตาแบบนี้บ้างไหม? เหมือนที่มองเสาไฟเก่าๆ ที่ยังยืนทำงาน เหมือนที่มองบ้านเก่าที่คอยรับฝน รับแดดแทนคนอยู่ข้างใน สายไฟข้างล่างพันกันยุ่งเหยิง ทว่าพอเงยหน้าขึ้น ท้องฟ้ากลับดูโล่งสะอาด ชีวิตเราก็คล้ายภาพนี้... ข้างล่างคือกองภาระ หนี้ งาน ความคาดหวัง สายแต่ละเส้นดึงเราไปคนละทิศละทาง บางวันเราจ้องแต่ความยุ่งเหยิงระดับสายตา จนลืมว่าเหนือหัวขึ้นไปอีกนิดเดียว ยังมีฟ้าให้หายใจอยู่ ไม่ใช่ให้เลิกใส่ใจภาระข้างล่าง ทว่าเพื่อเตือนตัวเองว่า... เวลาเหนื่อยเกินไป ลองถอยออกมาหนึ่งก้าว เงยหน้าอีกนิด ให้ใจได้เห็นท้องฟ้าในตัวเองบ้าง ฟ้ามิได้แก้ปมสายไฟ หากแต่มันช่วยมอบพื้นที่ว่างให้เราเรียงลมหายใจใหม่ เสาไฟต้นเดียวในภาพแบกสายไฟหลายเส้น บางเส้นมาจากบ้านหลังนี้ บางเส้นข้ามถนนไปเข้าอีกหลัง แต่ละเส้นมีเรื่องราวของมันเอง ผมนึกถึงตัวเราเวลาต้องรับบทหลายอย่าง เป็นลูก เป็นพ่อแม่ เป็นเพื่อน เป็นหัวหน้า เป็นลูกน้อง ทุกบทบาทส่งแรงดึงบางอย่างเข้ามาพันรอบตัว เสาไฟที่ดีต้องแข็งแรง ต่อให้แข็งสักเพียงใด ก็รับสายได้อย่างจำกัด ห้อยมากเกินไป วันหนึ่งก็เอน หรือหัก คนเราก็เช่นกัน... การรู้จักบอกตัวเองว่า เส้นนี้ขอไม่รับเพิ่มแล้ว นั่นแหละคือความแข็งแรง เป็นการถนอมเสาที่ทั้งซอยฝากไฟไว้ต่างหาก บางทีสิ่งที่ต้องกล้าทำหาใช่รับงานเพิ่ม ทว่าอาจเป็นการปีนขึ้นไปจัดสายที่พันกันมานาน แยกให้ออกว่าสายไหนคือหน้าที่ สายไหนคือความเคยชินที่ไม่มีใครใช้แล้ว มองเลยออกไปที่ต้นไม้แห้งข้างบ้านนั้น ผมเห็นภาพของฤดูกาลชัดขึ้น ครั้งหนึ่งมันเคยเขียวขจี เคยให้ร่ม เคยมีนกมาทำรัง วันนี้ยืนเปลือยกิ่งรอเวลาเปลี่ยนฤดูอีกครั้ง ตัวบ้านเองก็แก่ลงทีละปี คนในบ้านก็เช่นกัน สุดท้ายทุกสิ่งก็ต้องยอมรับความไม่จีรัง เสาไฟจะผุ ต้นไม้จะผลัดใบ บ้านจะเปลี่ยนมือ ทุกอย่างต้องยอมรับความไม่ถาวรเหมือนกัน พอคิดเช่นนี้แล้ว... ใจเลยอ่อนลงกับทั้งตัวเองและคนอื่น ถ้ายังต้องยืนร่วมเฟรมกันอยู่ในฤดูเดียวกัน ก็ขอใช้ช่วงเวลานี้ดูแลกันให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ยืนมองภาพนี้นานๆ แล้วได้บทสรุปเงียบๆ ว่า เราไม่จำเป็นต้องเป็นอะไรที่สวยงามให้คนชม ขอแค่เป็นเสาที่มั่นพอให้คนรอบข้างพิงได้บ้าง เป็นต้นไม้ที่ยืนอยู่แม้มีบางฤดูที่แห้งโกร๋น และอย่าลืมเผื่อฟ้าไว้เหนือหัวตัวเองเสมอ ในวันที่สายชีวิตพันกันยุ่ง ลองมองภาพนี้อีกที เสาไฟเก่า ต้นไม้แห้ง บ้านเก่า และฟ้ากว้าง ทุกอย่างต่างทำหน้าที่ของตัวเองเงียบๆ มันก็เพียงพอแล้วสำหรับการมีอยู่ในโลกใบนี้ “บางชีวิตเกิดมาเพื่อแบกสายไฟให้ทั้งซอยให้สว่าง บางชีวิตเกิดมาเพื่อเป็นเงาไม้ให้ใครสักคนได้หลบแดด ไม่จำเป็นต้องสวยที่สุด แค่ยืนอยู่ให้ไหว ทว่าต้องอยู่ด้วยกันให้ดีที่สุดในฤดูนี้” #JakkDiary #Siamstr
View quoted note →
🛡️
ขอบคุณสำหรับข้อคิดดีๆสำหับวันหยุดครับ 🧡⚡️ อ่านจบแล้วมันทำให้เข้าใจชีวิตช่วงเวลานี้ ดีขึ้นเยอะเลย สู้ต่อไป💪