Thread

"บางทีเราไม่ได้เกือบเสียรถ เราเกือบเสียบทเรียนสำคัญไปต่างหาก" image เช้านี้ผมรู้สึกว่าตัวเองออกจากบ้านด้วยใจลอย ๆ ไม่รีบมาก แต่ก็ไม่ช้าพอจะมองอะไรให้ละเอียด มอเตอร์ไซค์จอดไว้หน้าบ้าน เสียบกุญแจ สตาร์ตรถ ขับไปทำงาน พอไปถึงก็ลากสังขารขึ้นห้องเหมือนวันทั่ว ๆ ไป จนกระทั่งเลิกงานกำลังจะกลับบ้าน ผมเดินลงมา ยืนมองรถนิ่ง ๆ อยู่พักหนึ่ง รู้สึกแปลก ๆ เหมือนลืมอะไรสักอย่าง พอจะเอื้อมไปหยิบกุญแจในกระเป๋ากางเกง กลับคว้าเจอแต่หน้ากากอนามัย ใจเริ่มหน่วง ๆ เลยก้มลงไปมองแผงคอรถ กุญแจเสียบคาอยู่ตรงนั้นทั้งวัน แถมอยู่ในโหมดเปิดครบชุด เอาจนแบตหมดเกลี้ยง ตอนนั้นผมไม่ได้คิดเรื่องแบตเลย คิดอยู่คำเดียวว่า “โชคดีเหลือเกินที่รถยังอยู่” ในอีกโลกหนึ่ง รถคันเดิมอาจหายไปตั้งแต่เช้า อาจไม่มีเสียงสตาร์ตรถให้ได้ยินอีก ไม่มีเวลาให้นั่งยิ้มแห้งกับความซุ่มซ่ามของตัวเองแบบวันนี้ ผมมองหาคนรู้จัก ขอให้ช่วยพาไปหาที่จัมป์แบต วุ่นวายอยู่พักใหญ่ กว่าจะกลับมาสตาร์ตรถได้อีกครั้งก็เสียแรง เสียเวลาไปไม่น้อย แต่ระหว่างยืนรอ ผมกลับรู้สึกว่าเรื่องใหญ่สุดไม่น่าจะใช่แบตหมด และอาจไม่ใช่เรื่องรถอาจโดนขับหายไป เรื่องใหญ่คือ “ใจที่เผลอ” ต่างหาก กุญแจดอกเล็ก ๆ ที่เสียบไว้ตรงนั้นทั้งวัน เหมือนรูโหว่เล็ก ๆ ในชีวิต ที่เราเปิดค้างไว้โดยไม่รู้ตัว บางทีเราก็ไม่ต่างจากรถคันนี้สักเท่าไร ดูเหมือนปกติ วิ่งไปมาได้ทั้งวัน แต่บางจังหวะก็เผลอวางสิ่งสำคัญทิ้งไว้ในที่ล่อแหลม ฝากไว้กับดวง ฝากไว้กับความเมตตาของคนแปลกหน้า แล้วค่อยย้อนมาบอกตัวเองว่า “รอดตัวไปครั้งหนึ่ง” ความโชคดีในวันแบบนี้นับว่าเป็นบุญ แต่ถ้าต้องใช้บ่อย ๆ ชีวิตก็คงเหนื่อย ผมยืนมองกุญแจที่ยังเสียบคาอยู่ แล้วถามตัวเองเบา ๆ ว่า... จริง ๆ แล้วอยากฝากชีวิตไว้กับอะไร กับนิสัยเผลอ ๆ ที่หวังพึ่งโชค หรือกับสติเล็ก ๆ ที่ค่อย ๆ ฝึกให้ไม่เปิดช่องว่างแบบนี้ตั้งแต่แรก เรื่องลืมกุญแจนี้อาจจะดูเล็ก แต่ในใจผมมันเสียงดังพอสมควร มันดังเตือนว่า... อาจมีอีกหลายเรื่องในชีวิตที่เราเผลอเปิดไว้แบบนี้เหมือนกัน ข้อความที่ยังไม่ตอบ คำขอโทษที่ผัดวันประกันพรุ่ง ร่างกายที่ยังไม่ยอมหันมาดูแล หรืออาจจะเป็นหัวใจที่ให้คนอื่นเข้ามาเดินเล่นได้ง่ายจนเกินไป เราอาจรอดมาได้แล้วหลายครั้ง รอดจากการโดนตำหนิ รอดจากอุบัติเหตุ รอดจากเหตุการณ์ที่แค่เปลี่ยนรายละเอียดอีกนิดเดียว ชีวิตอาจไม่เหมือนเดิมอีกเลย ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่า ความโชคดีไม่ควรกลายเป็นข้ออ้างให้เราประมาทต่อไป ผมไม่ได้อยากกลายเป็นคนหวาดระแวงไปเสียทุกอย่าง เพียงแต่อยากให้ “ใจที่เผลอ” มีคนคอยปลุกบ้างบางที เหตุการณ์เช้าวันนี้ก็เลยทำหน้าที่นั้นได้อย่างดี ตอนดึงกุญแจออกจากช่องสตาร์ต ผมคงไม่ถึงกับสัญญากับตัวเองว่าจะไม่พลาดอีกเลย รู้ดีว่าคงไม่มีใครทำได้ แค่อาจจะบอกเบา ๆ ว่า ต่อจากนี้อยากให้การไม่ลืม มาจากความตั้งใจ มากกว่าหวังให้โลกเมตตา บางวันเราอาจยังพลาดอยู่ดี แต่ถ้าทุกครั้งที่พลาด เราได้เรียนรู้และปิดรูรั่วไปทีละจุด ต่อให้โชคดีอาจจะลดลงไปบ้าง.. ชีวิตก็คงไม่สั่นไหวง่ายเหมือนรถคันที่เสียบกุญแจทิ้งไว้ทั้งวันอีกต่อไป “ต่อให้โลกเมตตากับเราแค่ไหน สุดท้ายคนเฝ้าดูประตูชีวิต ก็คือสติเล็ก ๆ ในตัวเราเอง” #JAKKDiary #Siamstr

Replies (2)