เด็กชายคนนั้นเติบโตด้วยสูตรชีวิตง่ายๆ
“อย่าทำปัญหา จะได้ไม่ถูกดุ”
เขาพยายามเป็นเด็กดี ไม่ใช่เพราะอยากเป็นคนดีตามตำรา แต่เพราะ “ความเจ็บ ความผิดหวัง” คือสิ่งที่เขาไม่อยากได้เจออีก
คำชมจากพ่อแม่คือ "เชื้อเพลิง" ไม่ใช่รางวัลแบบของเล่นหรือเครื่องเกม แต่เป็นสิ่งหนึ่งที่บอกว่า "มีคนเห็นฉันอยู่ตรงนี้"
แต่ปัญหาคือ "คนอื่นไม่เห็น"
เขาต้องเป็นเด็กที่เดินออกมาเอง พูดออกมาเอง เหมือนต้องตะโกนว่า
“ดูสิผมทำดีนะ… ช่วยมองผมที”
ในความคิดของเขา "โลกความจริงเหมือนเกม JRPG"
❌แต่เขาไม่ใช่ พระเอกของเรื่อง ❌เขาคือ NPC ที่ไม่มีบท
พูดตามสคริปต์เดิม ทำหน้าที่เป็นฉากประกอบ มีคิวให้ผู้เล่นบางคนเข้ามาคุย แล้วจากไป
❌ไม่ทิ้งอะไรไว้เลย
เด็กคนนั้นเฝ้ามองผู้เล่นเดินผ่านไปทีละคน ไม่รู้ว่าตัวเขาเองเคยมีสิทธิ์เป็น “ตัวละครหลัก” หรือเปล่า
ที่บ้าน
- แม่เข้มงวด และเวลาที่มีกับเขาน้อยจนต้องแบ่งให้คนอื่น
- พ่อรัก แต่โลกของผู้ใหญ่ยุ่งมาก
- จนเด็กคนนี้กลายเป็นคนที่ “มีอยู่แต่เหมือนไม่มีใครว่างเห็น”
เขาอยากให้ใครสักคนหันมาบอกว่า “ฉันเห็นเธอนะ”
และคนแรกที่ทำแบบนั้นจริงๆในชีวิต กลายเป็นพ่อ ... ตอนแม่จากไปแล้ว
พ่อเห็นทั้ง ความดี ความพัง ความพยายาม รับฟังทั้งที่ ความคิดต่างกันสุดขั้ว
และยิ่งวันที่เขาสอบติดแพทย์ พ่อคือคนแรกที่มองเขาอย่างชัดเจนจริงๆ
แต่ในระหว่างทาง เด็กคนนี้เคยถกเถียงกับตัวเองว่า
ฉันควรตะโกนให้เสียงดังขึ้นไหมเพื่อให้คนเห็น? หรือ เก็บไว้เงียบๆดี เพราะไม่อยากอวด
สองแรงผลักขัดกันในใจ
- หนึ่งอยากเป็นที่ยอมรับ
- แต่อีกหนึ่งกลัวถูกตราหน้าว่าหิวแสง
เขาไม่เคยมีโอกาสเป็นเด็กที่งอแงได้ เพราะถูกสอนว่า
“ผู้ชายร้องไห้คือคนโง่”
ดังนั้นเขาจึงเลือกสิ่งที่ง่ายที่สุด… "หุบปาก"
ในวันนี้ ถ้าเขาเจอเด็กคนนั้นอีกครั้ง เขาไม่ได้อยากผลักไส หรือบอกให้เข้มแข็งขึ้น เขาอยากวิ่งเข้าไป "กอดให้แน่นที่สุด"
แล้วบอกว่า
“นายไม่ได้ผิดหรอก นายทำดีที่สุดแล้ว แค่ไม่มีใครสอนวิธีอยู่กับความเจ็บเท่านั้นเอง”
และนี่คือเรื่องราวของ เด็กดีที่ไม่มีตัวตน เด็กที่ไม่เคยร้องไห้ให้ใครเห็น แต่ข้างในเป็นบาดแผลที่อ้อนวอนแค่ให้ใครสักคนมองเห็นเขาจริงๆ
