พ่อมดคริปโต

พ่อมดคริปโต's avatar
พ่อมดคริปโต
npub1l8dv...g6c8
สวัสดีสหาย ! ข้าชื่อ ชับบี้ เจ้าของเพจ พ่อมดคริปโต แต่เนื่องจากตอนนี้อยู่ใน Nostr ก็จะออกแนวพ่อมดบิทคอยน์แทน55555 😂
image อมยิ้มรสนมจากเต้า ! หรือจะเรียกว่า "ลูกอมนมแม่" ก็ได้นะน้องหนู ซื้อมาด้วย #Bitcoin 🤣 สหาย... หากเจ้าเป็นคนชอบลองลูกอมรสชาติแปลก ๆ แถมยังมี Bitcoin เยอะเกินไป ลองเอา #BTC อันแสนมีค่ามาละลายทรัพย์เล่นกับอมยิ้ม Lollyphile ดูไหม ? เพราะอมยิ้มแบรนด์นี้เขาขึ้นชื่อเรื่อง "รสชาติประหลาดไม่เหมือนใคร" 🍭 Lollyphile เริ่มต้นบริษัทด้วยการผลิตอมยิ้มรสไวน์, เบียร์, และสุราชนิดต่าง ๆ แถมเห็นชื่อรสชาติอมยิ้มทีนี่จิ๊ดจ๊าดโดนใจ เช่น รสไวน์แดงเมอร์โล, รสเบียร์ IPA (เบียร์ India pale ale ของอินเดีย), และรสเบอร์เบิ้นวิสกี้ อั๊ยย่ะ !!! เห็นแต่ละรสชาติแล้ว... ไม่น่าจะใช่อมยิ้มที่ทำมาให้เด็กอมแล้วแหละสหาย 🍺 แต่ถ้ามองว่ารสชาติเครื่องดื่มมึนเมาพวกนั้นเป็นรสชาติที่แปลกของแบรนด์นี้... ผิดมหันต์เลยสหาย !!! มันเป็นรสชาติที่ธรรมดาที่สุดแล้วต่างหาก เพราะพวกเจ้ากำลังจะได้เจอ... อมยิ้มรสเบคอนที่เคลือบด้วยน้ำเชื่อมเมเปิ้ล (maple bacon), รสเบคอนช็อคโกแลต, รสบลูชีส, รวมไปถึงรสวาซาบิและขิง 🤪 แต่ความจริง... รสชาติสำหรับเด็กก็มีนะ แค่น่าจะต้องเด็กมากเลย เพราะหนึ่งในรสที่แปลกที่สุดที่เป็นรสยอดฮิตบนหน้าเว็บไซต์ของบริษัทเสียด้วย ก็คือ... รส "นมจากเต้า" ใช่แล้วสหาย มันคืออมยิ้มย้อนวันวาน ที่จะทำให้เรารู้สึกเหมือนได้ดูดนมแม่อีกครั้ง 🍼 แล้วไอรสนมจากเต้าที่ว่า... ครั้งหนึ่งมันเคยโดนเหมายกแพ็ค 1 กล่อง 36 ชิ้น อมกันจนปากเปื่อยจนแทบหย่านมแม่กันเลย แถมยังถูกซื้อด้วย 0.6 Bitcoin !!! ซึ่งสมัยนั้นตก BTC ละ $100 ก็เท่ากับเป็นมูลค่าราว $60 เท่านั้นเอง 🤏 แต่พอเทียบกับสมัยนี้... Bitcoin จำนวนนั้นจะมีมูลค่าราว $54,000 หรือประมาณ 1.7 ล้านบาทไทยเลยนะสหาย !!! แลกกับอมยิ้มรสนมจากเต้า 36 เม็ด !!! ป่านนี้คนซื้อรู้สึกยังไงบ้างนะ ? 💸 ก่อนจบขอย้ำคำเดิมสหาย การจะใช้จ่าย Bitcoin ไปกับอะไรนั้นไม่ใช่เรื่องผิด ส่วนตัวข้านับถือคนกล้าใช้ในฐานะส่วนเล็ก ๆ ที่ผลักดันการเกิด Adoption อยู่เสมอ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ารอยเท้าทางประวัติศาสตร์ของใครบางคนในวันนั้น ก็อาจกลายเป็นเรื่องให้เล่าสู่คนฟังและตลกขบขันไปจนถึงขั้นท้องแข็งกันจนวันนี้ ว๊าาาฮ่า ๆ ๆ ๆ !!! 🧙‍♂️ #พ่อมดคริปโต #siamstr
image ทีวีซีรีส์เรื่องแรกของโลก ที่พูดถึง #Bitcoin บทละคร 14 ปีก่อน: "(#BTC) มันคืออนาคต" 🎬🔥 ละครทีวีเรื่องนี้จัดว่า "โด่งดังมาก" ในสมัยก่อน ฉายยาวตั้งแต่ปี 2009 ถึง 2016 (ยิงยาว 7 ปี) ! มีตั้ง 7 ซีซั่น ! ชื่อเรื่อง "The Good Wife" 👏 📽 บทสนทนาตอนหนึ่งในเรื่อง: นางเอก: "ฉันเข้าเน็ตแล้วไปซื้อ Bitcoin มาเมื่อคืน" ตัวละครชาย: "จริงเหรอ มันคืออนาคต" นางเอก: "ไม่รู้สิ ฉันไม่ได้รู้สึกว่ามันจะจริงนะ" ตัวละครชาย: "ความจริงจะเปลี่ยน คอยดู" ตัวละครชายยิ้มให้ จับมือลา และเดินจากไปหล่อ ๆ ซีรีส์ตอนดังกล่าวออกฉายช่วงปลายปี และหลังจากนั้น ในปีถัดไป (2012) ... Bitcoin ก็ถูกซื้อขายกันแถวราคา $3 ก่อนจะพุ่งเป็นจรวด "ราว 3 ล้าน% !" มาสู่ราคาในปัจจุบันที่เราอยู่กันนี้ 🚀 และวันนี้ก็เป็นวันครบรอบ 14 ปีแล้ว ที่ละครตอนดังกล่าวออกฉายพอดี 🎉 แหม่... ไม่รู้ว่าตอนนั้นมีคนที่ดูละคร, นักแสดง, หรือผู้กำกับ ซื้อไว้ไหม ? ถ้าซื้อไว้และยัง HODL มาจนวันนี้ จะถือว่าเป็น "ละครก่อนกาล" เลย ! ของแทร่ !!! ว๊าาาฮ่า ๆ ๆ ๆ !!! 🧙‍♂️ #พ่อมดคริปโต #siamstr
image กำเนิดคำศัพท์ "HODL" เริ่มจากขี้เมาคนเดียว !!! 🤣 วันนี้ในปี 2013 บนฟอรัม Bitcointalk มีคนเมาคนหนึ่งโพสต์ถึง #Bitcoin โดยอธิบายว่า "ทำไมเขาถึงไม่ขาย แม้ว่าราคาจะร่วง" ถ้าใครเข้าไปอ่านจะเห็นเลยว่า "เมาจริ๊งงง !!!" พิมพ์ผิดพิมพ์ถูก เว้นวรรคมั่วซั่วไปหมด เหมือนคนไม่มีสติแล้วพยายามจะกดคีย์บอร์ดให้ได้ เนื้อหาเท่าที่จับใจความได้คือประมาณว่า: "ตรูพิมพ์หัวข้อนั้นซ้ำสองรอบ เพราะรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าพิมพ์ผิด แต่ก็ยังผิดอยู่ดี ช่างแม่งเหอะ แฟนไปบาร์เลสเบี้ยน BTC ก็ดิ่ง" เปิดหัวมาก็ฮาลั่นเลย อะไรเนี่ย ! พี่แกเครียดหรอ ? โกรธแฟน ? เจอวันแย่ ๆ มา ? หรืออะไร๊ ?! 😂 หลังจากระบาย พี่แกก็พิมพ์ต่อ: "ทำไมตรูยังถืออยู่ ? จะบอกให้ เพราะตรูเป็นเทรดเดอร์ห่วย ๆ และตรูรู้ตัวดี ว่าตรูมันห่วย พวกเทรดเดอร์เก่ง ๆ น่ะ มองเห็นจุดสูง-ต่ำปั๊บปุ๊บปั๊บ ปิ๊ดปั๊ดพั๊บวิงว่องวัง ๆ แล้วก็ทำเงินล้านสบาย ๆ ชิลครับพี่ชาย" ซาวด์เอฟเฟ็กต์มาเต็ม !!! อย่างลั่น55555555 😆 "ขณะเดียวกัน พวกใจบางก็... 'โอ้ มันร่วงว่ะ ขายละนะ ฮี่ฮี่ฮี่' แล้วพอพวกเทรดเดอร์เก่ง ๆ มาซื้อกลับ พวกมันก็จะแบบ 'โอ้ยเห็นราคาละเจ็บใจสัส' แต่รู้มั้ย ? ผมไม่ใช่พวกนั้น" เฮ้ย !! เมาจริ๊งง !!! 555 🤣 พิมพ์ออกรสออกชาติจังวะ "เวลาเทรดเดอร์พวกนัั้นซื้อคืน ผมก็ยังอยู่ในตลาดอะค้าบ พวกเอ็งเล่นโกงใครอยู่หรอ พวกนักเทรดรายวันโน่น ไม่ใช่ตรู~!" เฮ้ย ไปทางเก่งซะด้วย 😆 “พวกกระทู้ล่อเป้าพวกนั้นที่พูดว่า ‘โอ้ววว มึงควรขายไปแล้วนะ!’ เชี่ยไร ไม่มีเชี่ยไรควรขายทั้งนั้น ตรูนี่ต้องขายก่อนทุกคนขาย ตรูนี่ต้องซื้อก่อนทุกคนซื้อ แต่รู้ไหม ไม่ใช่ทุกคนจะเก่ง จะเท่ได้เท่าพวกเมิงหรอก" น่าจะไปอ่านกระทู้คนอื่นมา แล้วน่าจะหัวร้อน ขายไม่ทัน ยิ่งอ่านยิ่งขำจังวะ5555 😂 "เมิงจะขายตอนเข้าตลาดหมี ก็ต่อเมื่อมึงเทรดเก่งจริง ไม่ก็กากแต่มโนว่าเก่ง ส่วนคนอื่นระหว่างนั้นเหรอ เขาถือต่อกันโว้ย ในเกมการพนันแบบนี้อะ พวกเทรดเดอร์จะมาเอา เงินไปจากเมิงได้ ก็แค่... ต่อเมื่อเมิงยอมขายเองไง" ไอดอล ขวัญใจสายถือยาว เอาเรื่องจัดอะพี่ชาย555 🤣 "เอาล่ะ ตรูเพิ่งดกวิสกี้ไป เอาจริงบนขวดสะกดว่า whisky ช่างมันเถอะ ฟ้องตรูเลย (แต่ต้องจ่ายค่าปรับเป็น #BTC ได้นะ)" โห พี่ชาย... โดนไปกี่ขวดวะเนี่ย ! โดยกระทู้ทั้งหมดที่เล่ามานั้น... ใช้ชื่อหัวข้อว่า "I AM HODLING" น่าจะเมาแล้วพิมพ์สลับกันแหละ จากคำว่า HOLD (ที่แปลว่า "ถือ") เลยเขียนเป็น "HODL" เฉยเลย และกลายเป็นตำนานเล่าขานกันมา คำนี้เลยไวรัลและใช้กันมายาวนาน จนทุกวันนี้ก็ยังใช้กันอยู่เลย !!! 🤣 และวันนี้ก็ "ครบรอบ 12 ปี" แล้ว ! (กระทู้โพสต์วันที่ 18 ธ.ค. 2013) ถือเป็นวันกำเนิดคำว่า "HODL" ! ก็พี่ชายคนเมาคนนี้แหละสหาย... ที่เมาพิมพ์ผิดแล้วเกิดเป็นคำนี้... เอ้า !!! ชาบู !!! ว๊าาาฮ่า ๆ ๆ ๆ !!! 🧙‍♂️ #พ่อมดคริปโต #siamstr
image COLDCARD อุปกรณ์ hardware wallet ที่ออกแบบมาเพื่อ #Bitcoin โดยเฉพาะ เน้นความปลอดภัย สามารถทำธุรกรรม #BTC แบบ "Air-gapped" ได้ (คืออุปกรณ์ไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตด้วยซ้ำ) 💳 วันนี้ เป็นวันครบรอบ 8 ปี ที่ Coldcard ได้เปิดตัวออกสู่ตลาด ! โดยได้เปิดตัววันแรก วันที่ 14 ธ.ค. 2017 !!! 👏 ไหนใครเคยลองใช้งานกันดูแล้วบ้างสหาย ว๊าาาฮ่า ๆ ๆ ๆ !!! 🧙‍♂️ #พ่อมดคริปโต #siamstr
image ครบรอบ 15 ปี "วัน La Fuga" การจากไป พร้อม "คำเตือนสุดท้าย" ของซาโตชิ 👤 📌 เรื่องราวในตำนาน ก่อนคำเตือนครั้งสุดท้าย: หลังจากประกาศชัดเจนเมื่อวันที่ 23 เม.ย. 2011 แล้วว่า "จะย้ายไปทำอย่างอื่น" การปรากฏตัวของ Satoshi ก็ค่อย ๆ เลือนหายไปเหมือนเงาที่ถอยลับจากฉากหลังของโลกดิจิทัล แน่นอน... เขาไม่ได้หายวับไปทีเดียว เขายังคงมาพิมพ์ตอบคำถามในฟอรัมบ้างบางครั้ง ตอบพวกคำถามเฉพาะทาง แต่เขาก็แทบไม่โผล่ในห้องแชทอีกเลย และจำกัดการสื่อสารไว้เฉพาะกับ Gavin และนักพัฒนาจำนวนไม่มากนักผ่านอีเมลที่เริ่มห่างหายเป็นช่วง ๆ ในปลายปีนั้นเกิดสิ่งเล็ก ๆ อย่างหนึ่งซึ่งกลายเป็นสัญญาณใหญ่... เมื่อ Satoshi ถาม Gavin ว่าควรนำอีเมลของเขาไปใส่บนหน้าเว็บไซต์ #Bitcoin เพื่อเป็นช่องทางติดต่อหรือไม่ แต่ไม่นานนัก Gavin ก็พบว่าอีเมลเดิมของ Satoshi หายไปจากระบบราวกับถูกดึงออกอย่างตั้งใจ และในวันนี้ เดือนนี้ เมื่อ 15 ปีที่แล้ว (13 ธ.ค. 2010) คือช่วงเวลาที่โลกได้เห็นข้อความสาธารณะจากเขาเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งข้อความดังกล่าวแลดูต่างไปจากทุกที เพราะมันไม่ใช่การประกาศกร้าวว่า Bitcoin จะมาเปลี่ยนโลกแต่อย่างใด ไม่ได้ดูยิ่งใหญ่เหมือนทุกที... แต่ข้อความสุดท้ายดันเป็นเพียงการประกาศเปิดตัวซอฟต์แวร์ Bitcoin เวอร์ชัน 0.3.19 เท่านั้น พร้อมกับคำเตือนสุดท้ายก็ก่อนจะหายไปตลอดกาล “ยังมีวิธีโจมตี Bitcoin อีกหลายทาง กว่าที่ฉันจะนับได้” หลังจากข้อความสุดท้ายนั้น... ก็ไม่มีใครได้เห็น Satoshi อีกเลย... ทุกสิ่งก็เงียบลง แต่โลกกลับไม่หยุดตามหาเขา ชุมชนในห้องแชทเริ่มผสมผสานเบาะแสเล็ก ๆ น้อย ๆ เข้าด้วยกันเพื่อพยายามตั้งข้อสงสัยว่าใครคือ Satoshi แต่ทั้งหมดก็ล้วนเป็นเพียงข้อสันนิษฐาน และบุคคลนิรนามผุ้สร้าง Bitcoin ก็ได้หายไปจากโลกออนไลน์ตลอดการนับแต่นั้นมา 👀 ตึงเปรี๊ยะ !!! นั่นก็คือเรื่องราวในตำนานของ Satoshi Nakamoto นะสหาย ก่อนเขาจะหายไปตลอดกาล เป็นข้อความสุุดท้าย ที่สุดท้ายจริง ๆ ไม่ได้บอกลา (เพราะบอกไว้ก่อนนานแล้ว) แต่มาอัพเดทซอฟต์แวร์ กับคำเตือนแสนเรียบง่ายก่อนจะจากไปเท่านั้นเอง 👏 ทุกวันนี้เครือข่าย #BTC มันเติบโตขึ้นมาก แข็งแกร่งเกินกว่าผู้มีอำนาจใดจะมาโจมตีตามอำเภอใจอย่างง่ายดายได้แล้ว มันมาไกลมาก ๆ กลายเป็นเรื่องราวระดับโลกอยู่จนทุกวันนี้เลยแหละ ถ้าพี่แกยังอยู่คงจะภูมิใจนะ 💪 เหมือนในหนังเลยเนอะ !!! อย่างกับในฉากภาพยนตร์ ! และวันนี้ก็เป็นวันครบรอบ 15 ปี "ข้อความสุดท้ายจาก Satoshi Nakamoto" ถูกตั้งชื่อว่า "วัน La Fuga" (มาจากภาษาสเปน/อิตาลี) แปลว่า "การหายตัวไป" โดยน่าจะใช้คำนี้ให้มันเข้ากับบรรยากาศเหมือนในหนังนั่นแหละ คำมันฟังดูเป็น Chapter บทละครดี สุขสันต์วัน La Fuga นะสหาย 🙏 📝 ปล. บางเว็บไซต์อาจระบุว่าเป็นวันที่ 12 ธ.ค. 2010 แต่ถ้าว่ากันตามเวลาบ้านเรา มันเลยเที่ยงคืน เลยนับเป็นวันที่ 13 ธ.ค. 2010 แล้ว ว๊าาาฮ่า ๆ ๆ ๆ !!! 🧙‍♂️ #พ่อมดคริปโต #siamstr
image ครบรอบ 17 ปี วันกำเนิด #Bitcoin Mailing List !!! 💬 ผู้สร้าง #BTC ซาโตชิ นากาโมโตะ ได้เริ่มต้น Bitcoin Mailing List บนเว็บ SourceForge พร้อมกับข้อความต้อนรับสั้น ๆ ว่า: “Welcome to the Bitcoin mailing list!” (ยินดีต้อนรับสู่ Bitcoin Mailing List !) 📩 Mailing list คือ การรวมรายชื่ออีเมลสำหรับส่งข้อความหา "สมาชิกหลายคนพร้อมกัน” คล้าย ๆ เป็นแชทกลุ่มฉบับอีเมลนั่นแหละสหาย คือเป็นการคุยอีเมลที่แยกเธรดได้แบบฟอรัม อะไรแบบนั้น 💪 และ Mailing List ที่เกิดขึ้น ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น "Bitcoin Mailing List" นี้ก็ได้เป็นศูนย์กลางสื่อสารแรก ๆ ของเหล่านักพัฒนาและผู้ที่สนใจใน Bitcoin 🗓️ อย่าสับสนไทม์ไลน์นะสหาย... ซาโตชิ ส่ง "Bitcoin White Paper" ให้เหล่า Mailing List วันที่ 31 ต.ค. 2008 แต่นั่นเป็น Cryptography Mailing List คือกลุ่ม Mailing List ของคนที่สนใจเทคโนโลยีศาสตร์การเข้ารหัส Cryptography เท่านั้น แต่ Mailing List ที่เกิดขึ้นภายหลังในวันนี้ 10 ธ.ค. 2008 คือ Bitcoin Mailing List เป็น Mailing List เกิดใหม่ที่ว่ากันด้วยเรื่องของ Bitcoin โดยเฉพาะ ✍️ 👉 ต่อมา... เมื่อเครือข่าย Bitcoin เริ่มเติบโตและชุมชนต้องการพื้นที่ที่รองรับการสนทนาทางเทคนิคได้มากขึ้น Mailing List เดิมจึงค่อย ๆ พัฒนาและถูกย้ายมาอยู่บน Google Groups แทน กลายมาเป็น Bitcoin Development Mailing List ที่หลายคนอาจรู้จักกันอยู่ในปัจจุบันนั่นเอง !!! 🎉 สุขสันต์วัน "The Bitcoin Mailing List Begins" นะสหาย !!! ว๊าาาฮ่า ๆ ๆ ๆ !!! 🧙‍♂️ #พ่อมดคริปโต #siamstr
image จัดส่งขี้ถึงบ้าน แบบไม่ระบุตัวตน แค่จ่าย #Bitcoin มา ! เดือนเดียวรายได้ $10,000 ! 💩 กำเนิด Startup โฉมใหม่ไฟแรงผู้สร้างรายได้ราว "3.5 แสนบาทไทย" ภายใน 30 วันแรกหลังเปิดกิจการเท่านั้นเอง !!! พบกับบริการจัดส่ง "ขี้สด ๆ" ผ่านไปรษณีย์แบบไม่ระบุตัวตน ส่งตรงถึงบ้านคนที่คุณเกลียดขี้หน้า แลกค่าจ้างเป็น Bitcoin ภายใต้ชื่อแบรนด์ "ShitExpress" 🚚 เมื่อการจัดส่งที่รวดเร็ว ผนวกกับความตื่นเต้นในการส่งขี้ถึงบ้านผู้คน ธุรกิจแหวกใหม่จึงได้ถูกเปิดตัวสู่สาธารณะอย่างอลังการ โดยทางผู้ให้บริการได้เขียนเว็บบล็อกอธิบายต้นกำเนิดของบริการสุดหรรษา (?) อันเป็นไอเดียสุดบรรเจิดของตัวเองเอาไว้ซะยาวเฟื้อยจนลูกค้าต่างพากันขี้เกียจอ่าน ✍ นาย Peter ผู้ก่อตั้ง ShitExpress ได้เริ่ม "การทดลองทางการตลาด" ว่าถ้าเขาจะมีบริการ "ส่งขี้ม้าสด ๆ" ไปยังบ้านที่ผู้ใช้บริการระบุ จะมีคนสนใจมากน้อยแค่ไหน ทั้งที่ตอนเริ่มแรกเขายังไม่มีแม้แต่ม้าสักตัว และไม่มีความรู้เลยด้วยซ้ำว่าจะไปติดต่อหาขี้ม้าได้จากไหน ทุกอย่างที่เผยแพร่ออกไปเป็นเพียงการเริ่มต้นทดสอบตลาดเท่านั้น 🐴 พ่อหนุ่มนักธุรกิจไฟแรงได้เขียนเล่าทุกอย่างเอาไว้ว่า “ถ้ามีคนกดออเดอร์ขึ้นมาจริงล่ะ ? จะทำยังไง ? จะไปหาขี้ม้าจากไหนในเมืองนี้ ? ไหนจะเรื่องบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมแต่ราคาไม่แพง ?” 😅 “น้ำหนักและขนาดที่เหมาะสมล่ะ ? จะห่อยังไง ? ต้องมีอะไรเพิ่มเติมอีกไหม ? จะโน้มน้าวด่านตรวจศุลกากรให้เชื่อได้ยังไงว่านี่มันคือของขวัญราคา $3-5 จริง ๆ นะ ? แล้วไหนจะความรู้สึกแปลก ๆ ที่ต้องนำกล่องอุจจาระม้าเข้าไปยังที่ทำการไปรษณีย์อีก ?” เขียนปัญหามาจนดูเยอะแยะมากมาย แต่ถามว่าสุดท้ายพี่แกตัดสินใจทำไหม... ทำ ! 🤣 หลังจากได้รับออเดอร์แรกเข้ามาจริง ๆ ... พี่แกก็พยายามออกตามหาคอกม้าใกล้ ๆ และลองขอขี้ม้าจากเจ้าของดู สรุปเจ้าของดันให้ !!! คงเพราะปริมาณมันยังไม่เยอะขนาดนั้น ก็แค่ออเดอร์แรกอะเนอะ พี่แกเลยหอบขี้ม้ากลับมาแพ็คใส่บรรจุภัณฑ์และเตรียมจัดส่ง ในที่สุด... ออเดอร์แรกในฐานะ Startup ก็ได้มาถึงแล้ว ดีใจด้วยนะพ่อหนุ่ม 👏 จุดเปลี่ยนที่ทำให้ชีวิตของพี่แกโด่งดังเปรี้ยงปร้างขึ้นมา คือหลังจากเว็บข่าวเทคโนโลยี Motherboard ได้เขียนถึงธุรกิจของพี่แกในฐานะผู้ให้บริการจัดส่งขี้ม้าแลกกับ Bitcoin เว็บไซต์อื่น ๆ ก็เลยพากันลงข่าวตามด้วย ทำให้ยอดขายของพี่แกพุ่งทะยานขึ้นฟ้า ทะลุ $10,000 ภายในเดือนเดียว 🚀 ราคาขี้ม้าของพี่แกตกออเดอร์ละ $20 ก็หมายความว่าด้วยยอดขายทะลุ $10,000 ในเดือนเดียว พี่แกได้จัดส่งขี้ม้าสด ๆ ไปยังบ้านคนรวม 500 บ้านแล้ว !!! เอาจริงดิ !!! 500 หลัง !!! ความหมายคือ... Startup รายนี้ได้สร้างความฉิบหายทะลุ 500 ครัวเรือนไปเรียบร้อยแล้วในเดือนเดียว 🏘 เนื่องจากกิจการรุ่งเรืองรายได้ดีแบบนี้... พี่แกจึงตัดสินใจขยายช่องทางเพิ่มจาก Bitcoin อย่างเดียว เป็นเปิดรับ PayPal ด้วย 💳 และจากนั้นก็ยังคงให้บริการจัดส่งขี้ถึงบ้านคนที่ลูกค้าเกลียด ไปยังที่อยู่เป้าหมายแล้วกว่า 36 ประเทศทั่วโลก !!! นี่มันธุรกิจส่งออกนานาชาติเลยนะเนี่ยสหาย ทำเป็นเล่นไป55555 🌍 “ด้วยการสนับสนุนอันแข็งแกร่งจากลูกค้า เราจึงได้ขยายฐานการให้บริการเพิ่มขึ้นและเดี๋ยวจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่จะนำมาเสนอในอนาคตอันใกล้นี้” พ่อหนุ่ม Peter ผู้มีวิสัยทัศน์ด้านธุรกิจ (?) ได้เขียนเอาไว้ และยังทิ้งท้ายไว้อีกว่า “นอกเหนือจากนั้น เรายังต้องการเติบโตแบบกว้างขวาง โดยจะครอบคลุมพื้นที่ธุรกิจอื่น ๆ ให้มากขึ้น” 💪 อ่านจบแล้วเป็นยังไงกันบ้าง ? สนุกไหมสหาย ? สุดท้ายนี้... หากคำพูดคำจาหรือพฤติกรรมใด ๆ ที่ข้าได้แสดงออกไปในโลกออนไลน์หรือออฟไลน์ก็ดี และพวกเจ้ามองว่าเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม โปรดตักเตือนกันดี ๆ ด้วยถ้อยคำที่อ่อนโยน และอย่าลืมโอน #BTC มาให้ข้าด้วย แล้วข้าจะปรับปรุงทันทีนะ รับประกันเห็นผลฉับไว อย่าเอา BTC ไปใช้บริการแบบนี้เพื่อส่งขี้มาบ้านข้าเลย ว๊าาาฮ่า ๆ ๆ ๆ !!! 🧙‍♂️ #พ่อมดคริปโต #siamstr
image โคตรปั่น !!! เคยมีคนใช้ 1.6 #BTC ซื้อขนมแครกเกอร์ที่มีภาพ “ไมเคิล แจ็คสัน นมใหญ่" 🤣 นับเป็นอีกหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ขำขันของ #Bitcoin โดยในตอนเกิดเหตุการณ์... สมัยนั้น Bitcoin ตกเหรียญละ $12.5 เองสหาย ใช้จ่ายไปทั้งหมด 1.6 BTC ก็เท่ากับประมาณ $20 ในตอนนั้น ก็ตกเกือบ 700 บาทไทยอยู่นะสหาย ทำเป็นเล่นไป... แค่ขนมแครกเกอร์เนี่ยนะ 😅 แต่ถ้าเป็นตอนนี้ ขนมแครกเกอร์ที่มีรูป "ไมเคิล แจ็คสัน" เวอร์ชั่น "มีนมโต ๆ เป็นเต้าแบบผู้หญิง" จะเท่ากับถูกซื้อด้วยสิ่งที่มีมูลค่าราว $145,000 (ประมาณ 4.65 ล้านบาทไทยเลยนะไอบ้าเอ้ย !!!) 🍘 ซึ่งความจริงใครจะใช้จ่าย Bitcoin อย่างไรมันก็เป็นสิทธิ์ของเขานะสหาย เพียงแค่ดูจากมุมพวกเราที่มองย้อนกลับไปจากอนาคต มันก็อดขบขันไม่ได้อะเนอะ55555 กลายเป็นแครกเกอร์ที่มูลค่าแพงที่สุดในโลกไปเลยมั้งนั่น ว๊าาาฮ่า ๆ ๆ ๆ !!! 🧙‍♂️ #พ่อมดคริปโต #siamstr