satuser

satuser's avatar
satuser
npub1e9vc...j93f
satoshi is in the word 🌳 / technical dreamer
ดังที่เราได้พยายามถ่ายทอดในการอธิบายทฤษฎีการเมืองระดับโลกของเรา ความจำเป็นทางเทคโนโลยี ไม่ใช่ความคิดเห็นของประชาชน แต่เป็นแหล่งที่มาที่สำคัญที่สุดของการเปลี่ยนแปลง #siamstr #TheSovereignIndividual 👩🏼‍💻🌎👨🏻‍💻
💬 : ถ้าเปรียบ Mining Pool ในปัจจุบันเป็น "โรงงานนรก" ที่ผู้จัดการ (Pool) สั่งให้คนงาน (Miners) ทำงานตามคำสั่งเป๊ะๆ โดยห้ามถามห้ามเถียง... Stratum V2 กำลังจะเปลี่ยนให้คนงานทุกคนกลายเป็น "หุ้นส่วน" ที่มีสิทธิ์มีเสียงครับ Stratum V1 (ที่ใช้กันมาเป็นสิบปี) มันเก่าและมีจุดอ่อนเยอะ การมาของ Stratum V2 จะเข้ามา Shape (ปรับโฉม) วงการใน 3 มิติใหญ่ๆ ดังนี้ครับ: 1. การกระจายอำนาจที่แท้จริง (Decentralization & Censorship Resistance) นี่คือเรื่องใหญ่ที่สุดครับ • ปัญหาของ V1 (ยุคเผด็จการ): ปัจจุบัน Pool (เช่น Foundry, AntPool) เป็นคน "เลือก Transaction" ใส่ลงใน Block เองทั้งหมด เครื่องขุด (Miner) มีหน้าที่แค่รับโจทย์ไปคำนวณเลข Hash เท่านั้น ความเสี่ยง: ถ้าวันหนึ่งรัฐบาลสหรัฐฯ สั่ง Foundry ว่า "ห้ามยืนยันธุรกรรมของกระเป๋าเงินนี้นะ" Foundry ก็ต้องทำตาม และธุรกรรมนั้นอาจถูกแบนได้ นี่คือจุดอ่อนเรื่อง Centralization • สิ่งที่ V2 เปลี่ยน (ยุคประชาธิปไตย): V2 มีฟีเจอร์เด็ดที่เรียกว่า Job Negotiation (การเจรจางาน) • อนุญาตให้ Miner (เจ้าของเครื่อง) สามารถเลือก Transaction ที่ตัวเองอยากใส่ใน Block ได้เอง! แล้วค่อยส่งไปให้ Pool ตรวจคำตอบและจ่ายเงิน • ผลลัพธ์: อำนาจในการเลือกธุรกรรมจะกระจายจาก "Pool ใหญ่ไม่กี่เจ้า" กลับไปสู่ "Miner นับล้านเครื่องทั่วโลก" ทำให้การแบนหรือเซ็นเซอร์ธุรกรรมทำได้ยากขึ้นมหาศาลครับ 2. ประสิทธิภาพและความเร็ว (Efficiency & Latency) • ปัญหาของ V1: มันใช้ภาษาแบบ JSON (Text-based) ซึ่งเยิ่นเย้อ กิน Bandwidth และช้า เหมือนคุยกันด้วยการพิมพ์จดหมายหากัน • สิ่งที่ V2 เปลี่ยน: มันใช้ภาษา Binary (รหัสเลขฐานสอง) ซึ่งเบากว่าเดิมมาก • ลดปริมาณข้อมูลที่ส่งไปมาระหว่าง Pool กับ Miner ได้ถึง 50-90% • ลด Latency (ความหน่วง) ทำให้ Miner ที่เน็ตไม่แรง หรืออยู่พื้นที่ห่างไกล (เช่น ในป่าเขา หรือโรงไฟฟ้าไกลปืนเที่ยง) สามารถส่งคำตอบได้เร็วขึ้น ลดโอกาสเกิด Stale Share (ขุดฟรีแต่ไม่ได้เงินเพราะส่งช้าไป) 3. ความปลอดภัย (Security & Privacy) • ปัญหาของ V1: ข้อมูลส่วนใหญ่ที่ส่งหากัน "ไม่ได้เข้ารหัส" (Unencrypted) • มีความเสี่ยงต่อการโดน Hashrate Hijacking (แฮกเกอร์แอบดักกลางทาง แล้วเปลี่ยนเลขกระเป๋าเงินให้พลังขุดไปเข้ากระเป๋าโจรแทน) • สิ่งที่ V2 เปลี่ยน: บังคับ เข้ารหัส (Encryption) เป็นมาตรฐาน • ป้องกันการโดน ISP หรือแฮกเกอร์ส่องดูข้อมูล หรือขโมยกำลังขุดไปดื้อๆ (Man-in-the-Middle Attack) สรุปภาพรวม: วงการจะเปลี่ยนไปอย่างไร? 1. อำนาจของ Pool จะลดลง: Pool จะเปลี่ยนสถานะจาก "ผู้คุมกฎ" เหลือเพียง "ผู้ให้บริการทางการเงิน" (Liquidity Provider) ที่ช่วยเกลี่ยรายได้ให้ Miner เท่านั้น แต่จะไม่มีอำนาจเบ็ดเสร็จในการกำหนดทิศทาง Blockchain อีกต่อไป 2. เหมืองรายย่อยจะแกร่งขึ้น: ด้วยระบบที่เบาและปลอดภัยขึ้น เหมืองตามบ้าน (Home Miners) หรือเหมืองในพื้นที่ทุรกันดาร จะเสียเปรียบเหมืองใหญ่น้อยลง 3. Bitcoin จะ "ตัน" ยากขึ้น: การโจมตีระดับเน็ตเวิร์ค หรือการแทรกแซงจากรัฐจะทำได้ยากขึ้นมาก เพราะอำนาจการตัดสินใจไม่ได้อยู่ที่หัวเรือใหญ่ไม่กี่คนอีกต่อไป สถานะปัจจุบัน: ตอนนี้ Pool ใหญ่ๆ เริ่มรองรับ Stratum V2 แล้ว (เช่น Braiins Pool ที่เป็นผู้ผลักดันหลัก, DEMAND Pool) และ Firmware ของเครื่องขุดรุ่นใหม่ๆ ก็เริ่มรองรับแล้วเช่นกันครับ นี่คือการอัปเกรดท่อส่งเลือดของ Bitcoin ครั้งใหญ่ ที่จะทำให้ระบบแข็งแกร่งสมบูรณ์แบบขึ้นครับ #siamstr #stratumv2 #SV2 #bitcoin #mining #pool #geministr