#พาร์ทแรก คิดหนักมากก่อนที่จะเอา ภูมิปัญญาบิทคอยน์แสตนดาร์ด นี้มาแชร์ เนื่องจาก 𝕆ℙ𝕊𝔼ℂ ที่ย่อมาจากโอเปอเรชั่นเซเคียวริตี้ของแต่ละคนนั้น ถือว่าเป็นชุดข้อมูลตามหาตัวผู้ใช้ ที่เรามักไม่แบ่งปันกัน แต่ในเมื่อความปลอดภัยของบิทคอยน์เฟเดอเรชั่น ได้ถูกพิสูจน์ตนในตลาดมามากพอสมควร เราไม่มาลองเรียนรู้กลยุทธ์การใช้งานผู้ให้บริการไลท์นิ่ง (Lightning Service Provider) แบบไม่ต้องเสียข้อมูลส่วนบุคคลดูหล่ะ . . ประมาณปีหนึ่งแล้วหล่ะ หลังจากพาเน่ลของ 𝙏𝙝𝙖𝙞𝙡𝙖𝙣𝙙 𝘽𝙞𝙩𝙘𝙤𝙞𝙣 𝘾𝙤𝙣𝙛𝙚𝙧𝙚𝙣𝙘𝙚 #TBC2024 ที่มีผู้เข้ามานั่งฟังส่งคำถาม 𝚀𝚗𝙰 ขึ้นมาบนเวที แล้วถามถึงความกังวลเกี่ยวกับ การรวมศูนย์ของไลท์นิ่งเน็ตเวิร์ก เพราะคนส่วนมากใช้โหนดคัสโตเดี้ยนเช่น 𝚆𝚊𝚕𝚕𝚎𝚝 𝚘𝚏 𝚂𝚊𝚝𝚘𝚜𝚑𝚒 ในการใช้งานวันต่อวัน ไม่ทำให้ความเสี่ยงในการฝากถือครองบิทคอยน์เป็นปัญหาใหญ่หรอกเหรอ ทุกคนที่ติดตามเพจ Krutt แล้วรู้ดีถึงการลดความเสี่ยงนี้ด้วยธนบัตรชอวเมี่ยนคงไม่กังวลอะไร แต่เราลองมาเดินไปพร้อมกันแล้ววางแผน "สมมุติ" ของบุคคลที่ได้รับคำตอบจากพาเน่ลไป (ไม่เผยซื่อผู้ใช้หรือเซอร์วิสด้วย) . . """ ถ้าคุณเพ็กบิทคอยน์บนลิควิดแล้วถือเหรียญของไซด์เชน ใช้กระเป๋าอควาในการเชื่อมกับ 𝙱𝙾𝙻𝚃𝚉 ซึ่งเป็นเอ็กซ์แชนจ์กระจายศูนย์ (𝙳𝚎𝙵𝚒) คุณก็สามารถใช้จ่ายไลท์นิ่งทันใจ ได้โดยไม่พึ่งพาคัสโตเดี้ยนเลยแม้แต่ตัวเดียว มีการพึ่งพาเฟเดอเรชั่นของเสตทเชนตัวหนึ่ง ซึ่งผ่านสมรภูมิมาแล้วรวมถึงมีความไวทางบล็อกไทม์กว่าเมนเน็ต ส่วนไลท์นิ่งจะทำงานผ่านอะตอมมิกสว็อพทำให้ธุรกรรมแต่ละตัวจากไซด์เชนถึงเมนเซน เกิดขึ้นอย่างเรียบง่าย และได้รับการปกป้องจากเครือข่ายบิทคอยน์ทุกสายฟ้าฟาด """ . . หลังจากรับข้อมูลนี้ไป บุรุษท่านนี้ได้มองเห็นความสามารถยืดหยุ่นเพิ่มเติมของเสตทเชน หรือที่วัยรุ่นเจ็นแซ่บเรียกกันว่า เลเยอร์สองนะครับ แน่นอนว่าเรื่องชื่อเสียที่วงการคริปโต ฯ สร้างกันมาเช่นการฟรีซสลากเทียบคู่ดอลล่าร์สหรัฐ หรือกลไกการสอดส่องติดตามอื่น ๆ เราคงยังต้องแก้ไขกันอีกเยอะ แต่ในวันนี้ เราขอพูดถึงเทคโนโลยีขั้นต่อไปจากตรงนี้ก่อน บนเทคโนโลยีที่ชื่อว่า 𝙰𝚛𝚔 ซึ่งเป็นเทคโนโลยี 𝚂𝚝𝚊𝚝𝚎𝚌𝚑𝚊𝚒𝚗 ของบิทคอยน์จากศิษย์เก่าบริษัทบล็อกสตรีม ที่ไม่พอใจกับการเข้าถึงยากของเฟเดอเรชั่นไซด์เชนนามว่าลิควิด หรือเลเยอร์สองรูปแบบแชนเน่ลที่ชื่อว่าไลท์นิ่งกันนะครับ . . 𝙰𝚛𝚎 𝚜𝚝𝚊𝚝𝚎𝚌𝚑𝚊𝚒𝚗𝚜 𝚜𝚎𝚕𝚏-𝚌𝚞𝚜𝚝𝚘𝚍𝚒𝚊𝚕? คำถามแรกและคำถามสำคัญที่สุดของบทความเกริ่นเรื่อง ไซด์เชนจากทีมงาน 𝙗𝙞𝙩𝙘𝙤𝙞𝙣++ ได้บอกเอาไว้ว่า """ 𝚆𝚑𝚎𝚗 𝚙𝚎𝚘𝚙𝚕𝚎 𝚝𝚊𝚕𝚔 𝚊𝚋𝚘𝚞𝚝 “𝙻𝟸 𝚜𝚎𝚕𝚏-𝚌𝚞𝚜𝚝𝚘𝚍𝚢,” 𝚝𝚑𝚎𝚢 𝚊𝚛𝚎 𝚛𝚎𝚏𝚎𝚛𝚛𝚒𝚗𝚐 𝚝𝚘 𝚞𝚜𝚎𝚛𝚜 𝚛𝚎𝚝𝚊𝚒𝚗𝚒𝚗𝚐 𝚊 𝚞𝚗𝚒𝚕𝚊𝚝𝚎𝚛𝚊𝚕 𝚎𝚡𝚒𝚝 𝚙𝚊𝚝𝚑 𝚊𝚗𝚍 𝚑𝚊𝚟𝚒𝚗𝚐 𝚊 𝚙𝚛𝚘𝚟𝚊𝚋𝚕𝚎 𝚊𝚜𝚜𝚞𝚛𝚊𝚗𝚌𝚎 𝚝𝚑𝚊𝚝 𝚝𝚑𝚎𝚢 𝚊𝚛𝚎 𝚝𝚑𝚎 𝚘𝚗𝚕𝚢 𝚘𝚗𝚎𝚜 𝚠𝚑𝚘 𝚌𝚊𝚗 𝚜𝚙𝚎𝚗𝚍 𝚝𝚑𝚎 𝚌𝚘𝚒𝚗𝚜 𝚝𝚑𝚊𝚝 𝚝𝚑𝚎𝚢 𝚌𝚞𝚜𝚝𝚘𝚍𝚢. """ . . แปลว่า ความหมายของเหรียญ peg-in ของแต่ละเสตทเชนนั้น จะขึ้นอยู่กับว่าบิทคอยเน่อร์สามารถทวงคืนมูลค่าสู่เมนเน็ตได้หรือไม่ (ในบทความมีการติชม 𝙎𝙥𝙖𝙧𝙠 อย่างหนักว่าไม่มอบความสามารถนี้ให้กับผู้ใช้) แต่ว่าปัญหาที่สองจะเกิดขึ้นทันที เนื่องจากการทำงานเสกลลิ่งของบล็อกเชนสองชั้นนั้น หาควรใช้คำตอบด้วยบล็อกเชนอีกตัวหนึ่งไม่ ในสายตาของไซเฟอร์พังก์ยุคบุกเบิก 𝘾𝙖𝙣 𝙬𝙚 𝙨𝙘𝙖𝙡𝙚 𝙗𝙞𝙩𝙘𝙤𝙞𝙣... 𝙬𝙞𝙩𝙝 𝙤𝙩𝙝𝙚𝙧 𝙗𝙡𝙤𝙘𝙠𝙘𝙝𝙖𝙞𝙣𝙨? """ 𝚁𝚘𝚕𝚕𝚞𝚙𝚜 𝚖𝚞𝚜𝚝 𝚞𝚜𝚎 𝚋𝚒𝚝𝚌𝚘𝚒𝚗 𝚊𝚜 𝚊 𝚍𝚊𝚝𝚊 𝚊𝚟𝚊𝚒𝚕𝚊𝚋𝚒𝚕𝚒𝚝𝚢 𝚕𝚊𝚢𝚎𝚛. 𝚃𝚑𝚎 𝚊𝚋𝚒𝚕𝚒𝚝𝚢 𝚝𝚘 𝚝𝚛𝚞𝚜𝚝𝚕𝚎𝚜𝚜𝚕𝚢 𝚛𝚎𝚌𝚘𝚗𝚜𝚝𝚛𝚞𝚌𝚝 𝚝𝚑𝚎 𝚛𝚘𝚕𝚕𝚞𝚙’𝚜 𝚜𝚝𝚊𝚝𝚎, 𝚏𝚛𝚘𝚖 𝚋𝚒𝚝𝚌𝚘𝚒𝚗, 𝚊𝚗𝚍 𝚋𝚞𝚒𝚕𝚍 𝚏𝚞𝚕𝚕𝚢 𝚝𝚛𝚞𝚜𝚝-𝚖𝚒𝚗𝚒𝚖𝚒𝚣𝚎𝚍 𝚜𝚒𝚍𝚎𝚜𝚢𝚜𝚝𝚎𝚖 𝚋𝚛𝚒𝚍𝚐𝚎𝚜 𝚒𝚜 𝚝𝚑𝚎 𝚛𝚎𝚜𝚞𝚕𝚝 𝚘𝚏 𝚞𝚜𝚒𝚗𝚐 𝚋𝚒𝚝𝚌𝚘𝚒𝚗 𝚊𝚜 𝚊 𝚍𝚊𝚝𝚊 𝚊𝚟𝚊𝚒𝚕𝚊𝚋𝚒𝚕𝚒𝚝𝚢 𝚕𝚊𝚢𝚎𝚛. """ . . คำสัญญาที่นักระดมทุนชอบฟัง คือการใช้งานอ็อพติมิสติกโรลอัพ หรือเพิ่มความซับซ้อนด้วยซีโร่โนว์เล็ดจ์ แล้วนำเอาข้อมูลออฟเชนทำงานคูณหมื่นคูณล้านรอบได้ แต่ปากขวดของการคิดมักง่ายนี้จะติดคำว่า 𝚍𝚊𝚝𝚊-𝚊𝚟𝚊𝚒𝚕𝚊𝚋𝚒𝚕𝚒𝚝𝚢 เลเยอร์ หรือชุดข้อมูลกระจายศูนย์ของบิทคอยน์นั้น ไม่ใช่สิ่งที่เราสามารถตั้งมั่นล่วงหน้าได้ก่อนถึงเวลาแสตมป์บล็อกนั้นเองนะครับ . . ในโพสท์หน้า เราจะมาพูดถึงเทคโนโลยีแหวกแนว ที่เลิกตกหลุมพรางทางความซับซ้อนของวงการ แล้วเลือกที่จะเสกลบล็อกธุรกรรมบนบิทคอยน์ ผ่านการเสกล 𝚄𝚃𝚇𝙾 แทนที่การเสกลบล็อกแทนนะครับ กลุ่มนักพัฒนาเหล่านี้ใช้งเทคโนโลยีชื่อว่า 𝙰𝚛𝚔 และมีสองทีมแข่งขันกัน แฝงดราม่าเล็ก ๆ ชื่อว่า 𝙰𝚛𝚔𝙻𝚊𝚋𝚜 นำโดย 𝙰𝚗𝚍𝚛𝚎𝚠 𝙲𝚊𝚖𝚒𝚕𝚕𝚎𝚛𝚒 และ 𝚂𝚎𝚌𝚘𝚗𝚍 นำโดย 𝙽𝚎𝚒𝚕 𝚆𝚘𝚘𝚍𝚏𝚒𝚗𝚎 กัน . . #Bitcoin #Siamstr #Siamdev #ArkLabs #Second #Ark image