
หลังโควิด ทุกคนบอกว่า "Telemedicine" คืออนาคต คือประตูใหม่ของวงการแพทย์ไทย ทั้งผู้ป่วยและแพทย์จะได้เข้าถึงระบบสุขภาพแบบทันสมัย สะดวก และยืดหยุ่น
แต่ความจริงในสนาม Telemedicine ของไทย… มันโหดร้ายกว่าที่คิด และไม่แฟร์กับแพทย์อย่างที่สุด
- ในมุมผู้ป่วย มันดีมาก เข้าถึงง่าย ไม่ต้องเสียเวลาไปโรงพยาบาล
- ในมุมแพทย์ มันคือการเปิดประตูสู่การทำงานจากบ้าน อยู่กับครอบครัวมากขึ้น
ใครมันจะคิดว่าอาชีพหมอสามารถ work from home หรือ work from everywhere ได้ล่ะครับ มันฉีกตำราความเชื่อเดิมทิ้งหมดเลย
ทุกอย่างเหมือนจะเป็นไปได้สวย แต่พอได้ลงไปในสนามจริง… ผมถึงรู้ว่าเบื้องหลังมันคือ ภารกิจเอาชีวิตรอดของหมอออนไลน์ ที่คนข้างนอกไม่มีวันเห็น
1. รายได้ไม่มั่นคง ไม่ใช่แค่ไม่มั่นคง…
แต่มันคือ “เสี่ยงจนแทบเอาชีวิตไม่รอด”
หมอ Telemedicine ไม่มีเงินเดือน ไม่มีขั้นต่ำ ไม่มีอะไรเลย
รายได้จะมากจะน้อย ขึ้นอยู่กับจำนวนคนไข้ และหลายเดือนตัวเลขคนไข้คือ ศูนย์
- ศูนย์คนไข้ก็คือศูนย์รายได้
- แต่ค่าใช้จ่ายชีวิตมันไม่เคยหยุด ใครจะอยู่ได้จริงในความไม่แน่นอนแบบนี้?

2. หมอต้องกลายเป็น “นักล่าเคส นักล่าค่าหัว” แบบไม่เต็มใจ
ระบบบีบให้หมอต้องแย่งคนไข้กันเองเพื่อให้ไม่อดตาย คลินิคหรือบริษัทโฆษณาว่า
- สะดวก
- ทันสมัย
- ทำงานเมื่อไหร่ก็ได้ (Work form home or work from anywhere)
แต่เบื้องหลังคือ… ค่าตอบแทนต่อเคสต่ำจนตกใจ
หมอต้องวิ่งรับเคสแข่งกับหมออีกหลายร้อยคน .. หรืออาจจะเป็นพันคนแล้วก็ได้
แพทย์ไม่ใช่ผู้ให้บริการ แต่ถูกลดเหลือเป็น “แรงงานรับเคส” “แรงงานเคลียร์คิวคนไข้รอตรวจ”
ลองคิดดูว่า… วันหนึ่งต้องตรวจคนไข้ 150–200 คน ถึงจะพอมีรายได้แบบประคองตัวได้ นี่ไม่ใช่การแพทย์แล้ว นี่คือ อุตสาหกรรมความเร่งรีบ
ระบบทำให้หมอต้องแย่งกันกดรับเคสเหมือนเกม แต่เกมนี้เดิมพันคือปากท้องของครอบครัวจริง ๆ
ถามจริง — วงการแพทย์ควรจะตกต่ำมาจนต้อง “ล่าเคส” แบบนี้จริงเหรอ?
(สำหรับคนนอกวงการ หมอจบใหม่ที่ต้องไปทำงานใช้ทุนรพ.ต่างจังหวัดเต็มที่ก็ตรวจคนไข้ผู้ปวยนอก 100 คนนิดๆต่อวันโดนประมาณครับ)
3. บริษัทโตวันโตคืน
แต่หมอโดนเหยียบศักดิ์ศรีทุกวัน ยิ่งหมอรับคนไข้ได้เยอะ บริษัทก็ยิ่งได้กำไรมหาศาล แต่ค่าตอบแทนต่อเคสที่บริษัทให้หมอนั้น…ต่ำจนแทบไม่น่าเชื่อ
ผมไม่รู้ตัวเลขชัดๆหรอกครับ แต่เดาๆเอาจากประสบการณ์ กะว่าแพทย์น่าจะได้ 5 ถึง 10% ราคา ticket size นั้น
สุดท้ายคืออะไร?
- บริษัทชนะ
- ผู้ป่วยได้ประโยชน์
แต่หมอ…เสียทั้งเวลา สุขภาพ ศักดิ์ศรี และคุณค่าของอาชีพ มันไม่มีอะไรเจ็บเท่าการทำงานหนัก แต่รู้สึกเหมือนตัวเองกำลัง “ถูกใช้” มากกว่า “ทำงานแพทย์” จริง ๆ

สรุปให้สั้นที่สุด
ถ้าคุณเป็นหมอในไทยและคิดจะลอง Telemedicine เป็นรายได้เสริม มันทำได้ แต่ต้องยอมรับความจริงว่า คุณกำลังเดินเข้าสู่เกม ล่าเคส ล่าค่าหัว เกมเร่งจำนวน เกมที่ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อให้หมอเติบโต แต่เพื่อให้แพลตฟอร์มโตเท่านั้น Telemedicine ไม่ได้แย่
แต่ “รูปแบบธุรกิจ Telemedicine ในไทยตอนนี้” …มันโหดร้ายกับหมอเกินไป
