ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ก่อนที่ทุกอาณาจักรไม่ว่าจะเล็กหรือยิ่งใหญ่แค่ไหน จะพบกับการล่มสลาย ต่างมีสัญญาณบ่งชี้เหมือนๆ กัน image 1. ผู้ปกครองลุแก่อำนาจ โดยเฉพาะการทำลายสกุลเงินจากการพิมพ์เพิ่ม ปล้นน้ำพักน้ำแรงและอนาคตที่ดีของประชาชนออกไป 2. ข้าวยากหมากแพง จากเงินที่เสื่อมค่า รายจ่ายแซงรายได้ เมื่อคนส่วนใหญ่เอาตัวไม่รอด สังคมก็เสื่อมทราม ทุกคนจำเป็นต้องแก่งแย่งชิงดีเพื่อมีชีวิตต่อไป แม้มันจะไปทำร้ายใครก็ช่าง 3. อัตราการเกิดต่ำลงเรื่อยๆ เลี้ยงตัวเองยังแทบตายจะเอาปัญญาที่ไหนไปเลี้ยงลูก? แม้แต่คนที่พอมีกำลังก็ไม่คิดอยากมี เพราะหมดหวังกับอนาคต ไม่อยากให้ลูกเติบโตขึ้นมาในสังคมที่เฮงซวย 4. เมื่อเด็กเกิดใหม่น้อยมาก สังคมก็มีแต่คนแก่ แถมเป็นคนแก่ที่ไม่มีเงินเก็บพอที่จะเลี้ยงดูตัวเองในบั้นปลาย และเศรษฐกิจมันโตไม่ได้ถ้าคนทำงานแทบไม่มี สถานการณ์ที่เราต้องเผชิญ ณ ตอนนี้ "มีครบทุกข้อ" เมื่อคนส่วนใหญ่พึ่งพาตัวเองไม่ได้ ก็ต้องพึ่งพาผู้ปกครอง และการช่วยเหลือเหล่านั้นคือตัวเร่งการล่มสลาย เพราะคุณเชื่อได้เลยว่าที่มาของเงินจะมาจากการผลิตเงินเพิ่มไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง จะเลือกกู้ประเทศที่เสกเงินได้ หรือให้ธนาคารกลางเสกเงินจากอากาศมาปล่อยกู้ให้รัฐผ่านการขายพันธบัตรก็ตาม ทั้งหมดล้วนให้ผลลัพธ์ไม่ต่างกัน นั่นคือ เงินของทุกคนที่หามาอย่างยากลำบากจะเสื่อมค่า ทุกอย่างจะแพงขึ้นและแพงขึ้น โดยรายได้คุณไม่มีวันโตตามทัน ชีวิตที่ลำบากอยู่แล้วยิ่งฉิบหายไปกันใหญ่ เพราะเขาช่วยให้เรารอดวันนี้พรุ่งนี้ แลกกับนรกขุมที่ลึกกว่ารอทุกคนอยู่ในอนาคต ก.า.รเ.มื.อ.ง เคยเป็นความหวังเดียวของเรา แต่ต่อสู้กันมาหลายช่วงอายุคนนอกจากไม่เคยสำเร็จ มันยังเหี้ยหนักกว่าเดิม แล้วคิดว่าในช่วงชีวิตเรามันจะสำเร็จเหรอครับ? ในเกมที่เขาคือผู้คุมกฎ เราสู้ยังไงก็แพ้ ทางเดียวที่เราจะมีโอกาสชนะ อันดับแรกคือต้อง "หนี" ออกจากเกมที่เขาออกแบบไว้ เอาสิทธิ์ในการควบคุมชะตาชีวิตตัวเองกลับคืนมา จะดีจะเลวก็ขอให้มันเป็นไปด้วยน้ำมือของเรา เมื่อเขาไม่สามารถควบคุมและปล้นเราผ่านการทำให้เงินเสื่อมค่า เขาจะค่อยๆ อ่อนแอลง และวันนั้นการต่อสู้และเสียสละของทุกคน จะนำพาไปสู่ความสำเร็จ Best saving technology of mankind ที่ช่วยปกป้องอนาคตของเรา ลูกหลานเรา จากพวกโลภมากบ้าอำนาจไม่มีที่สิ้นสุด มันรอคุณอยู่ตรงหน้าแล้ว และมันมแบโอกาสให้เราหนีจากความอัปปรีย์ที่เกิดขึ้น มุมมองคนส่วนใหญ่ ความคิดผมคงถูกโยนไปอยู่ในหมวดแนวคิดขยะเพ้อเจ้อเลอะเทอะ ตัวเลขดิจิทัลที่ดูเหมือนแชร์ลูกโซ่บ้าๆ บอๆ นี้นี่นะ คือทางออก ซึ่งก็ไม่แปลกใจ เพราะเราทุกคนถูกหลอกมานับร้อยปี ว่า "เงิน" ต้องเป็นกระดาษควายๆ เท่านั้น ราคาข้าวของแพงขึ้นทุกวันคือเรื่องปกติ และประชาชนจะมีชีวิตที่ดีจำเป็นต้องมีอัศวินขี่ม้าขาวมาดูแลทุกซอกทุกมุม แต่วันนี้กูไม่ได้บ้าอยู่คนเดียวโว้ยยยยยยย มิตรรักแฟนเพลงเกลื้อนสนิทมิตรสหายกูเยอะม๊ากกกก พวกกูไม่ยอมให้มึกแดกง่ายๆ หรอก ไอเวรตะไล แล้วเจอกันในงาน TBC2024 ครับ Bitcoin will come for you one day no matter what. #Siamstr
"ความจริงที่ซ่อนอยู่ข้างหลังเงินเฟียต คุณกำลังถูกปล้น เงินของคุณกำลังถูกทำให้เสื่อมค่า งานหนักของคุณกำลังถูกทำให้เป็นของไร้ค่า สังคมกำลังเสื่อมสลายลงจนไม่เหลือชิ้นดี ชีวิตมันมีแต่ยากขึ้นและยากขึ้น แล้วคุณก็รู้สึกเหมือนว่าคุณต้องหาเงินไปปรนเปรอคนอื่นอยู่ตลอดเวลา คุณพบว่าคุณต้องทำงานเป็นเวลานานขึ้นแต่กลับได้เงินน้อยลง จำเป็นที่จะต้องดิ้นรนหาเงินเพื่อชักหน้าให้ถึงหลัง ในขณะที่บางคนดูเหมือนเขากำลังร่ำรวยมากขึ้นเรื่อยๆ" "Work life balance ของคุณกำลังพังพินาศและผิดเพี้ยนมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อคุณจำเป็นที่จะต้องสละเวลาที่มีค่าของคุณ เวลาที่มีค่าที่คุณสามารถที่จะใช้มันอยู่กับคนที่คุณรัก เพื่อออกไปตามหาความมั่นคงทางการเงินที่ไม่มีวันได้มา เมื่อต่างคนต่างดิ้นรนเอาตัวรอดไปวันๆ คุณจะเห็นสภาพแวดล้อมรอบตัวคุณ บ้านใกล้เรือนเคืองของคุณ กลายเป็นพื่นที่ที่ผู้คนแทบไม่รู้จักกัน คนห่างเหินซึ่งกันและกัน สังคมที่ผู้คนเคยสนิทสนมรู้จักกันดีว่าใครเป็นใครอยู่ที่ไหนยังไง กลายเป็นภาพเลือนลางที่พบเห็นได้ในหนังยุคโบราณ ร้านค้าท้องถิ่นที่เคยเป็นมิตรกับผู้คนถูกแทนที่ด้วยสาขาร้านค้ายักษ์ใหญ่ ที่ไม่มีเจ้าของเป็นตัวเป็นตนให้คุณสามารถพูดคุยกับเขาได้ การพูดคุยกับคนที่เป็นเพื่อนบ้านกันอย่างมีมิตรไมตรีกลายเป็นสิ่งที่เกิดได้ยากขึ้นเรื่อยๆ" "คุณเริ่มรู้สึกเหมือนตัวคุณกลายเป็นเฟืองเล็กๆ ชิ้นส่วนนึงในเครื่องจักรขนาดใหญ่ ความเป็นตัวตนของคุณ คุณค่าของคุณ กำลังถูกผลักไปนั่งอยู่ข้างหลัง ในขณะที่คุณจำเป็นต้องดิ้นรนเพื่อต่อสู้กับ "หนี้" ที่พอกพูนขึ้นทุกวัน" - จิมมี ซอง #Siamstr
เสื้อบังสวยเป็นบ้าเลยครับเพื่อนๆ #Siamstr
ระยะเวลาราง 80 ปี ก๋วยเตี๋ยวแพงขึ้นแค่ไหนและรายได้เราควรโตปีละเท่าไรถึงจะซื้อมันได้เท่า ๆ เดิม? มาดูกัน image "5 สตางค์" คือราคาก๋วยเตี๋ยว ในปี พ.ศ. 2485 ผมยึดจากประกาศในรูปของ จอมพล ป. (หารูปชัดไม่ได้) เทียบกับปี 2567 นี้ ผมเฉลี่ยราคาซัก "50 บาท" ละกัน เพราะ 40 บาทไม่ค่อยเห็นแล้ว และถ้าขายราคานี้ปริมาณมักน้อยจนกินไม่อิ่ม ต้องสั่งพิเศษเท่านั้นถึงจะพอเอาอยู่ คำนวณหยาบๆ จะได้ดังนี้ 1. การเปลี่ยนแปลงของราคา เริ่มต้น 2485: 5 สตางค์ ปัจจุบัน: 5000 สตางค์ (50บาท) (5000-5)/5x100 = 999,000% 2. การเปลี่ยนแปลงเฉลี่ยต่อปี ((5,000 สตางค์ / 5 สตางค์)^(1/82)) - 1 = 12.04% สรุป 82 ปีที่ผ่านมา ราคาก๋วยเตี๋ยวแพงขึ้นแทบจะ 100,000% โดยเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 12.04% ต่อปี และหลายคนชอบบอกว่า ดัชนีราคาก๋วยเตี๋ยวที่เป็นอาหารหลักมันสะท้อนค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นของคนไทยได้ดี ดังนั้น ใครที่ทำงานและมีรายได้อยู่ รายได้คุณมีอัตราเติบโตเฉลี่ยถึง 12% มั้ย ถ้าไม่ แสดงว่าคุณกำลัง "จนลง" อยู่ครับ เพราะรายได้ของคุณที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปี มันซื้อของกินของใช้ได้น้อยลงเรื่อยๆ อย่าโดนตัวเลขหลอก แม้จะกี่ปีผ่านไป แบงก์พันใบเดิมหน้าตามันก็เหมือนเดิม แต่มูลค่ามันไม่เคยเท่าเดิม "เก็บ" เงินเสื่อมค่าเท่าที่เสียได้นะครับ ที่เหลือเปลี่ยนมันเป็นอะไรก็ได้ ที่มันสามารถรักษามูลค่าข้ามผ่านกาลเวลา Fix the money, fix the world #Siamstr