อาทิตย์ก่อนพาป้า สมัคร Exchange ไทยเจ้าหนึ่งเพราะตะล่อมป้ายยาส้มชาวโลกไปทั่วแต่คนในบ้านตัวเองยัง ขาดความเข้าใจ .. วันนี้ป้าบอกพาซื้อบิทคอยน์หน่อย ..(ตรงกับ Timeline ข่าวการอายัดบัญชีของธนาคารพอดี) … รอบแรกพาทำ รอบสองลองซื้อเอง เป็น ภาพก้าวเล็กๆที่ยิ่งใหญ่ จากนั้นก็เปิด Laptop ฉายสไลด์ Canva ที่ทำไว้สอน นักเรียนให้ แม่ ป้าและ ภรรยาฟังพร้อมๆกัน .. ทุกคนมีสายตาแห่งความหวังเมื่อรู้ว่าที่ดินทำเลทองมันเหลือที่ให้จับจองแค่เศษมด …ที่ตัวเลขมีนัยยะสำคัญคือ ปี 2030 Supply ทั้งหมดของ Bitcoin จะถูกขุดขึ้นมาถึง 99 % …เอาล่ะอย่างน้อย สำนวนไทย มาช้าดีกว่าไม่มาที่เหลือค่อยเพิ่ม Knowledge ไปเรื่อยๆ See the light Baby boomer. #Siamstr #Saving #Deflation #FixtheMoney #Fixtheworld
Wake up neo this’s the Matrix. #Siamstr #Decentralized
ถ้าคุณแน่อย่าแพ้ ป 2 ฮาๆ Inflation for Kid #siamstr #kids
💚ความสัมพันธ์ระหว่างการบำเพ็ญพุทธกิจของพระพุทธองค์ (โดยเฉพาะการเดินจงกรม) และการเดินเท้าเปล่าของพระสงฆ์ กับการค้นพบเรื่อง Grounding (Earthing) ​ ​ 💚ความสัมพันธ์ระหว่างการบำเพ็ญพุทธกิจของพระพุทธองค์ (โดยเฉพาะการเดินจงกรม) และการเดินเท้าเปล่าของพระสงฆ์ กับการค้นพบเรื่อง Grounding (Earthing) ที่มีผลต่อสุขภาพและจิตนั้น เป็นเรื่องที่น่าสนใจและสามารถตีความเชื่อมโยงกันได้ แม้ว่าในพุทธศาสนาจะไม่ได้ระบุถึง "Grounding" โดยตรงด้วยศัพท์ทางวิทยาศาสตร์ แต่หลักปฏิบัติเหล่านี้กลับสอดคล้องกับประโยชน์ที่การ Grounding มอบให้ได้เป็นอย่างดี ​ ​ 💚1. การเดินจงกรมของพระพุทธองค์และพระสงฆ์ ​การเดินจงกรม เป็นการปฏิบัติภาวนาในอิริยาบถยืนและเดินอย่างมีสติ พระพุทธองค์ทรงปฏิบัติการเดินจงกรม และทรงแนะนำว่าเป็นประโยชน์ 5 ประการ คือ: ​ ​ 💚ทำให้ทนทานต่อการเดินทางไกล (ธุดงควัตร) ​ ​ 💚ทำให้ทนทานต่อความเพียร (ไม่เมื่อยล้าเร็ว) ​ ​ 💚ทำให้มีอาพาธน้อย (สุขภาพดี) ​ ​ 💚อาหารที่ฉันย่อยได้ดี ​ ​ 💚สมาธิที่ได้จากการเดินจงกรมตั้งมั่นอยู่ได้นาน ​ ​การเดินเท้าเปล่าของพระสงฆ์ โดยเฉพาะในการบิณฑบาต ถือเป็นส่วนหนึ่งของการฝึกตนและเป็นไปตามพระวินัย พระภิกษุในสมัยพุทธกาลมักเดินเท้าเปล่า และในปัจจุบันพระป่าหรือพระที่ปฏิบัติเคร่งครัดก็ยังคงเดินเท้าเปล่าเป็นปกติ การเดินเท้าเปล่านี้มีนัยยะของการลดอัตตา ปลงละสังขาร และการสัมผัสกับธรรมชาติโดยตรง ​ ​ 💚จุดประสงค์หลักทางธรรมะ: ​ ​ 💚เจริญสติ: การเดินจงกรมเน้นการรับรู้สัมผัสของเท้ากับพื้น การยก การย่าง การวางเท้า การรับรู้อาการทางกายที่เกิดขึ้นในแต่ละก้าว ทำให้เกิดสติสัมปชัญญะ (ความรู้สึกตัวทั่วพร้อม-เจริญสติในอริยาบถน้อย,อริยาบถใหญ่) ​ ​ 💚ปรับสมดุลอิริยาบถ: เป็นการปรับเปลี่ยนอิริยาบถจากการนั่งสมาธิ ช่วยให้ร่างกายไม่เมื่อยล้าเกินไป และยังคงการปฏิบัติธรรมได้อย่างต่อเนื่อง (โดยเฉพาะการปฏิบัติแนวเคลื่อนไหว) ​ ​ 💚ฝึกความอดทน: การเดินจงกรมและการเดินเท้าเปล่าเป็นการฝึกความอดทนต่อความเจ็บปวด ความเมื่อยล้า และสภาพแวดล้อมต่างๆ (ตามสภาพแวดล้อมของสถานที่ เช่น พื้นที่ราบ พื้นที่ภูเขาที่ต้องใช้ความอดทนเพิ่มขึ้น) ​ ​ 💚2. การค้นพบเรื่อง Grounding (Earthing) ​Grounding หรือ Earthing คือ การเชื่อมต่อร่างกายโดยตรงกับพื้นผิวโลก (เช่น เดินเท้าเปล่าบนหญ้า ดิน ทราย หรือสัมผัสพื้นผิวธรรมชาติอื่นๆ) ทฤษฎีของ Grounding ระบุว่า โลกมีประจุลบอิสระจำนวนมาก ซึ่งเมื่อร่างกายมนุษย์สัมผัสกับพื้นผิวโลก จะสามารถรับประจุลบเหล่านี้เข้ามาในร่างกายได้ ​ ​ 💚ประโยชน์ทางวิทยาศาสตร์ที่สันนิษฐานได้จาก Grounding: ​ ​ 💚ลดการอักเสบในร่างกาย: ประจุลบจากโลกเชื่อว่าทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ช่วยลดการอักเสบเรื้อรัง ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคต่างๆ ​ ​ 💚ปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับ: ช่วยปรับสมดุลจังหวะชีวิต (Circadian Rhythm) และลดระดับฮอร์โมนคอร์ติซอล (ฮอร์โมนความเครียด) ทำให้หลับได้ดีขึ้น ​ ​ 💚ลดความเครียดและความวิตกกังวล: การสัมผัสธรรมชาติช่วยกระตุ้นระบบประสาทพาราซิมพาเทติก (Parasympathetic Nervous System) ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมการพักผ่อนและผ่อนคลาย ​ ​ 💚เพิ่มการไหลเวียนโลหิต: มีงานวิจัยเล็กๆ น้อยๆ ชี้ว่าอาจช่วยลดความหนืดของเลือดและปรับปรุงการไหลเวียน ​ ​ 💚เพิ่มพลังงาน ลดความเมื่อยล้า: ผู้ที่ฝึก Grounding หลายคนรายงานว่ารู้สึกมีพลังงานมากขึ้นและลดความเหนื่อยล้า ​ ​ 💚3. ความสัมพันธ์ระหว่างพุทธกิจ (การเดินจงกรม, เดินเท้าเปล่า) กับ Grounding ​แม้ว่าในพุทธศาสนาจะไม่ได้มีแนวคิดเรื่อง "ประจุลบ" หรือ "อิเล็กตรอน" เหมือนวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ แต่ผลลัพธ์ทางสุขภาพและจิตที่เกิดจากการปฏิบัติดังกล่าวกลับมีความสอดคล้องกันอย่างน่าทึ่ง: ​ ​ 💚การเชื่อมต่อกับธรรมชาติโดยตรง: ทั้งการเดินจงกรม (มักทำบนพื้นดิน) และการเดินเท้าเปล่าของพระสงฆ์ ล้วนเป็นการนำร่างกายมาสัมผัสกับพื้นผิวโลกโดยตรง ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการ Grounding โดยธรรมชาติ ​ ​ 💚ลดความเครียดและเพิ่มสติ: การเดินจงกรมเป็นการฝึกสติในอิริยาบถเคลื่อนไหว ทำให้จิตใจสงบ ไม่ฟุ้งซ่าน ซึ่งสอดคล้องกับผลของ Grounding ที่ช่วยลดความเครียด ปรับอารมณ์ และเพิ่มสมาธิ ​ ​ 💚ส่งเสริมสุขภาพกาย: พระพุทธองค์ตรัสถึงประโยชน์ของการเดินจงกรมว่าทำให้มีอาพาธน้อย (สุขภาพดี) และช่วยให้อาหารย่อยได้ดี ซึ่งสอดคล้องกับผลของ Grounding ที่ช่วยลดการอักเสบ ปรับปรุงการไหลเวียนโลหิต และโดยรวมแล้วส่งเสริมสุขภาพกายที่ดี ​ ​ 💚การตระหนักรู้ในกาย: การเดินจงกรมเน้นการรับรู้สัมผัสของเท้ากับพื้น ซึ่งทำให้เกิดการตระหนักรู้ในกาย (Body Awareness) และการเชื่อมโยงกับปัจจุบันขณะ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการทำสมาธิ และการผ่อนคลายจิตใจจากการจดจ่ออยู่กับสิ่งภายนอก ​ ​ 💚การเป็นสมถะและวิปัสสนาญาณในตัว ​การเจริญสติในอิริยาบถเดิน โดยเฉพาะแนววิปัสสนา สามารถเป็นทั้งสมถะและวิปัสสนาญาณในตัวได้ เนื่องจาก: ​ ​ 💚สมถะเกิดจากการจดจ่อ: เมื่อผู้ปฏิบัติสามารถจดจ่ออยู่กับการเคลื่อนไหวของเท้าหรือกายได้อย่างต่อเนื่อง สติที่ตั้งมั่นอยู่กับอารมณ์เดียวนี้จะทำให้จิตสงบลงโดยธรรมชาติ แม้จะเป็นความสงบชั่วขณะ (ขณิกสมาธิ) แต่ก็เพียงพอที่จะเป็นฐานให้เกิดปัญญาได้ ข้อสังเกตหากผู้ปฏิบัติยังไม่สามารถต่อสู้กับนิวรธรรม โดยเฉพาะ ถีนมิทธะ จะจัดอยู่ในข่ายการทำสมถะคือยังไม่สามารถรวมอินทรีย์แก่กล้าจนตัด ความง่วงเหงา หาวนอนไปได้ การปฏิบัติจริงจากประสบการณ์ตรงของหลายท่านพบว่าการเผลอหลับในขณะเดินจงกรมนั้นมีสาเหตจากหลายปัจจัยเช่น ความเมื่อยล้า การบริโภคอาหารโดยไม่พิจารณาโดยเฉพาะอาหารที่มีน้ำตาลสูง ​ ​ 💚วิปัสสนาเกิดจากการพิจารณา: เมื่อจิตมีความสงบและสติที่มั่นคงระดับหนึ่งแล้ว การที่ผู้ปฏิบัติกำหนดรู้และพิจารณาเห็นอาการต่างๆ ของกายที่เกิดขึ้น-ตั้งอยู่-ดับไป (ยก-ย่าง-วาง) เห็นความไม่เที่ยง (อนิจจัง) เป็นทุกข์ (ทุกขัง) และไม่ใช่ตัวตน (อนัตตา) เหล่านี้คือการทำงานของปัญญาวิปัสสนาญาณ ​กล่าวโดยสรุป: ​ ​การบำเพ็ญพุทธกิจของพระพุทธองค์และการเดินเท้าเปล่าของพระสงฆ์ โดยเฉพาะการเดินจงกรมนั้น แม้จะมีจุดมุ่งหมายหลักเพื่อการฝึกจิตภาวนาและลดละกิเลส แต่ในทางปฏิบัติแล้ว มันได้สร้างเงื่อนไขที่เอื้อให้เกิดประโยชน์ทางกายภาพคล้ายกับการทำ Grounding โดยธรรมชาติ การสัมผัสกับพื้นโลกโดยตรงอย่างมีสติ ทำให้ร่างกายได้ "เชื่อมต่อ" กับพลังงานธรรมชาติของโลก ซึ่งอาจส่งผลดีต่อสุขภาพกาย (ลดการอักเสบ ปรับสมดุลร่างกาย) และสุขภาพจิต (ลดความเครียด เพิ่มความสงบ) ซึ่งสอดคล้องกับผลลัพธ์ที่การค้นพบเรื่อง Grounding ในปัจจุบันระบุไว้ ดังนั้น อาจกล่าวได้ว่า ปราชญ์ในอดีตได้ค้นพบวิธีการปฏิบัติที่นำมาซึ่งประโยชน์ต่อทั้งกายและใจ โดยที่ยังไม่มีศัพท์ทางวิทยาศาสตร์มาอธิบายกลไกได้อย่างชัดเจนในสมัยนั้นนั่นเอง #Earthing #Grounding #siamstr #Dhamma image