"คนเลว" มักจะหาความชอบธรรมให้ตนเอง โดยการสร้างเหตุผลที่ผิดเพี้ยนเข้าข้างตนเอง เพื่อให้ตนเองดูดี หรือไม่ก็เพื่อให้ตนเองได้ทำเลวต่อไป. วจีมาร: อย่าใส่ใจในคำลวง ๏ อหังการ ผลาญจิต คิดโอหัง วาจาพลั้ง ปั้นแต่ง แกล้งบิดเบือน สร้างชอบธรรม คำลวง ดั่งลางเลือน เหมือนแชเชือน เหยียบย่ำ ซ้ำทำพาล เหตุผลพิ กลพิการ มาอ้างอิง หลอกผู้ทน ผู้ฟัง ยังรำคาญ หัวเราะเยาะ เหยียดหยัน คำคนพาล ช่างโอหัง บังอาจ มิอาจทน ทำชั่วช้า สามานย์ ซ่านฤทัย ยังผูกใจ อ้างชอบ ธรรมข่มคน หวังเพียงให้ ตัวรอด พ้นบ่วงตน ช่างน่าปน เปื้อนนัก พักลงดิน วจีมาร ผลาญผ่อง พิกลหนัก ช่างน่าชัง คำบิดเบือน ที่ได้ยิน เหยียบย่ำซ้ำ ความดี บัดสีสิ้น กาลเวลา ผลาญกิน ไม่คืนคลาย อันความเลว เรื้อรัง มิยั่งยืน กรรมจักคืน สนองพลัน อย่าหวั่นไหว อย่าใส่ใจ คำลวง ที่ปั่นไป ปล่อยเขาไป ตามกรรม ที่ทำมา โอ้ท่านเอ๋ย... จงอย่า ได้ใส่ใจ คำใดใด จากวจี มารชั่วช้า สัตว์โลกย่อม เป็นไป ตามชะตา กรรมนำพา... อย่าตรอง ให้ปวดใจ #siamstr #SIAMSTR #บางคนชั่วแล้วยังปากแจ๋ว
ทำไมถึงซื้อ BTC กันทุกราคา DCA แบบหลับหูหลับตา ? คนที่ถามคำถามนี้แก่เหล่า bitcoiner (ผู้ถือครอง bitcoin) ส่วนมากจะถามด้วยสีหน้า แววตา น้ำเสียง บ่งบอกถึงความสงสัยสุดขีด (เหมือนจริงๆแล้วเขาอยากจะใช้คำถามว่า “มึงไปโดนตัวใหนมาวะถึงซื้อ BTC ได้ทุกราคาบ้าอะป่าว ?”) สิ่งที่ทำให้เหล่า bitcoiner สามารถทำการ DCA ได้ทุกเดือนโดยไม่มีความกังวลก็เพราะว่า BTC มันไม่เน่า มันไม่ยืดได้ หดได้เหมือนเงินที่ “รัฐ” สร้างขึ้นมาให้ผู้ถูกปกครองของพวกเขาใช้ หรือพูดง่ายๆมันไม่เสื่อมค่า ค่าของมันจะคงที่อยู่ตลอด แต่ที่ราคามันขึ้นมันลงเป็นเพราะ เรื่องของ อุปสงค์ อุปทาน ณ ขณะนั้น แล้วไม่กลัวเหรอว่ามันเป็นแชร์ลูกโซ่ จับต้องก็ไม่ได้ ใครก็ไม่รู้เสกเหรียญขึ้นมา ? ถ้าจะให้อธิบาย สติปัญญาของผมก็คงไม่มากพอที่จะอธิบายได้อย่างละเอียดให้คุณเข้าใจได้ แรกๆ bitcoiner ก็ตั้งคำถามกันแบบนี้ทุกคนไม่เพียงแต่ตั้งคำถาม ส่วนใหญ่มักจะสาปส่งด้วยซ้ำ BTC ทุกเหรียญที่เกิดขึ้นมาไม่ได้เกิดจากการ เสกขึ้นโดยการมีคนๆ หนึ่ง พิมพ์โค้ด แล้วกดกระแทกปุ่ม ENTER ดังปั้ง ! แล้วเหรียญ BTC เกิดขึ้นมา แต่การเกิดมีขึ้นมาของ BTC แต่ละเหรียญ มีราคาที่ต้องจ่าย ต้องมีการลงทุนเครื่องขุด ลงทุนพลังงาน และถ้าหากทำเป็นอุตสาหกรรม ก็ต้องมีการจ้างแรงงาน ต้องมีการลงทุนที่ดินสถานที่ตั้งเหมือง ซึ่งไม่ต่างจากการทำเหมืองขุดทอง ซึ่งถ้าติดตามข่าว ก็คงพอจะได้ยินข่าวเหมืองขุดเถื่อนลักลอบต่อไฟ จากการไฟฟ้า มาใช้ในการทำเหมือง BTC สร้างความเสียหายหลักล้านบาท ฉะนั้นแล้วเมื่อการเกิดของมันต้องมีการลงทุน ลงแรง จริงๆ ไม่ได้เกิดจากการเสกเอาได้ง่าย อย่างนั้นแล้ว คนที่ทำอาชีพขุด BTC ขายก็ไม่ยอมที่จะขาย BTC ให้ต่ำกว่าต้นทุนที่ใช้ในการขุด และ BTC จะมีการ halving (ลดรางวัลที่ได้จากขุดครึ่งหนึ่ง) ทุก 210,000 block และเมื่อปริมาณที่ได้จากการขุดมันลดลงทุกสี่ปี ก็เป็นการบังคับโดยปริยายให้บรรดาเหมืองขุด ต้องทำการอัปเกรดเครื่องขุดของตนให้แรงขึ้นเพื่อที่จะได้ขุดได้เหรียญเท่าเดิม และพลังงานไฟฟ้าก็ต้องใช้เพิ่มขึ้นอีกเพื่อให้ได้เหรียญจำนวนเท่าเดิม เมื่อต้นทุนเพิ่มขึ้น นักขุดก็ไม่ยอมที่จะขาย BTC ในราคาที่ต่ำกว่าทุนที่ตนเองจ่ายไป และกระบวนการนี้ก็จะเกิดขึ้นทุกสี่ปี ไม่มีใครสามารถยับยั้งมันได้ถ้าหาไม่ได้รับความยินยอม จาก Node ทุก ๆ Node ซึ่งถ้าจะให้อธิบายต่อก็คงต้องพิมพ์กันเป็นหลายสิบหน้ากระดาษ แล้วมีเหตุผลอะไรที่ทำให้มั่นใจใน BTC อีก ? เพราะมันเป็นระบบเงินที่ทุกคนใช้เงินระบบนี้มีสถานะเท่าเทียมกัน ไม่มีใครที่ใช้เงินประเภทเดียวกันกับเราคนใดคนหนึ่ง ที่สามารถจะมีอายัดบัญชีเราได้ หรือยกเลิกธุรกรรมที่เราทำไปได้ มันเป็นเงินที่เป็นเงินของผู้ใช้จริงๆ ไม่มีข้อกำหนดว่าถ้าถอน BTC เกิน 2,000,000 sat แล้วต้องรายงานการถอน ไปยัง satoshi Nakamoto (ผู้สร้าง BTC) และเช่นเดียวกันต่อให้เขาเป็นผู้สร้าง BTC เมื่อ code มันรันไปแล้ว เขาไม่สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงอะไรได้ เขาก็เป็นแค่ผู้ใช้ธรรมดาคนหนึ่งในระบบเงินชนิดนี้ และต่อให้เขาแก้ไขเปลี่ยนแปลง code และ รัน code ที่เขาแก้ไขใหม่ลงบน Node เขาสามารถทำได้ แต่ว่าจะมีใครจะทำตามเขามั้ย? เพราะถ้าไม่มีใครยอม รัน code ใหม่ตามเขา node ที่เขารัน ก็เท่ากับไม่มีใครคบไม่สามารถใช้การได้. (ผิดถูกประการใดช่วยชี้แนะด้วยครับ) และถ้าคุณไม่ใช่bitcoiner แต่คุณฝืนจิตฝืนใจ อ่านจนจบคุณจะบ่นว่า นี่มันเหี้ยไรวะเนี่ย ! ขอบคุณที่ยอมสละทรัพยากรที่มีค่าสุดของมนุษย์(เวลา) เพื่ออ่านบทความของผม รักนะ จุ๋บ ๆ 555555555555 LOL #siamstr #SIAMSTR #BTC #bitcoin #bitcoiner #rightshift #แด่bitcoinerมนุษย์ที่มักถูกมองเป็นคนบ้า #แด่ตัวกูนะคืนนี้ยังไม่หลับไม่นอนทั้งๆที่พรุ่งนี้มีนัดสำคัญ
คนที่แค่มองตาก็รู้ใจ ในชีวิตคุณนึกถึงแววตาที่ผมกล่าวมาได้กี่คู่ ? ปัจจุบันคุณยังได้ติดต่อเขาอีกมั้ย ? ติดต่อครั้งล่าสุดเมื่อไหร่ ? สำหรับผมแล้วความแปลกประหลาดของผมคือ ผู้ที่เป็นเจ้าของแววตาที่ผมมองแล้วรู้ใจซึ่งกันและกัน ไม่ใช่ ภรรยา แม่ พ่อ พี่ น้อง น้า ป้า บุคคลเหล่านี้เขามีความสำคัญที่ไม่ต่างกับเจ้าของดวงตาคู่ที่มองแล้วรู้ใจซึ่งกันและกัน แต่เรามักจะไม่บอกทุกเรื่องให้บุคคลเหล่านี้ เรื่อง ความมืดมนในจิตใจของเรา เรื่องความทุกข์ ของเรา เราไม่อยากให้พวกเขารู้ว่า เราเลวได้แค่ใหน ? ชั่วได้ขนาดใหน ? และเราตรอมตรมอยู่กับความทุกข์ขนาดใหน ? สำหรับผมแล้วคนที่ผมแล้วคนที่ผม มองตาแล้วรู้ใจซึ่งกันและกันว่าต่างฝ่ายต่างคิดอะไร คือเพื่อน เพื่อนที่เห็นผมล้มลุกคลุกคลาน กันมาตลอด เพื่อนที่คบกับผมมาตั้งแต่วันที่ผมยังเป็นแค่คนธรรมดาไม่มีศักยภาพ หรือความสำคัญอะไร เพื่อนผมเหล่านี้มักจะติดต่อหาตัวอยาก นัดพบเจอยาก โทรไปก็รับคุยกันคำ สองคำก็วางสาย แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เมื่อไหร่เพื่อนผมเหล่านี้รับรู้ว่าผมมีปัญหาพวกเขามักจะติดต่อมาเอง บางครั้งเราก็คิดถึงแววตาเหล่านั้น แววตาที่เราพูดอะไรที่ทุกข์ใจออกไป แล้วรับฟัง สบตา มีสมาธิรับฟังอยู่กับสิ่งที่เราพูด และรู้คำตอบของคนฟังทันทีที่เห็นแววตาตอนนั้น เป็นอะไรที่ ฟิน อิ่มเอม ตื่นตัน ไม่ต่างกับการที่รู้ว่า คนที่เราแอบรักเขาก็รักเรา ช่วงนี้ผมคงทุกข์ใจมาก เฝ้านึกถึงแววตาเหล่านั้นอยู่ทุกคืน แต่เจ้าของแววตาเหล่านั้นต่างก็แยกย้ายกันไปเติบโต มีหน้าที่ที่รับผิดชอบ ผมอาจจะเป็นคนแปลก ประหลาด ไม่ระบายเรื่องทุกข์ใจ ให้คนในครอบครัวฟัง ทั้งที่ต่างฝ่ายต่างรู้ใจซึ่งกันและกัน ผมขอบังอาจใช้คำว่า "เรา" ในบทความนี้แทนตัวผมและพวกท่านทั้งหลายที่สละเวลาอ่านบทความนี้ ผมตระหนักดีว่าบางท่านก็ไม่ได้มีแนวคิดเหมือนผมที่ต้องระบายเรื่องทุกข์ใจ เรื่องที่เราทำไม่ดีไว้ให้เพื่อนสนิทฟังเท่านั้น บางท่านอาจสามารถระบายให้คนใกล้ตัวฟังได้ ซึ่งผมเองก็อยากจะให้มันเป็นแบบนั้น #siamstr #SIAMSTR #nostr #มองตาก็รู้ใจ
"เงินกองโต" เมื่ออยู่ในมือพนักงานสอบสวนผู้ชั่วช้า ถูกที่ และ ถูกเวลา ความผิดอญาที่เกิดขึ้น(ความชั่ว) ก็จะถูกพัดปลิว หายไปเหมือนฝุ่นที่โดนลมพัด คงเหลือแต่ ท่านยมพบาลที่เงยหน้ามองขึ้นมาจากนรก มองเห็น และจดจำความชั่วนั้นเอาไว้ เพื่อจะรอพิพากษาคนเลวคนนั้นเมื่อเวลาของมันมาถึง แต่ใดๆ แล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่า นรก และ สวรรค์ มีจริงหรือไม่ ? 5555555555 LOL #siamstr #แด่ความ(อ)ยุติธรรม