
(เอาบทความตัวเองเมื่อ 2023 มารีรัน กลับมาอ่านแล้วตลกมาก)
ถืออะไรก็ถือได้.. แค่อย่าถือมั่นยึดมั่น มันจะหนัก
ความรู้ของผู้อาวุธโสนั้นไม่ถือเป็นความรู้ที่พิเศษกว่าผู้อื่นประสบการณ์ของเขาก็เช่นกัน ทุกความรู้ ทุกประสบการณ์มีคุณค่าอยู่ในตัวของมัน ซึ่งหลายครั้งไม่สามารถประเมินมูลค่าได้
ลองสังเกตุ เด็กที่เรียนหมอต้องอ่านตำรา ต้องเรียนตามที่ครูสอน แต่พอเรียนจบ เขาก็ต้องมาอ่านเปอเปอร์งานวิจัย โรคใหม่ที่แม้แต่อาจารย์อาวุธโสก็รักษาไม่ได้ ทำไมล่ะ?
เช่นเดียวกันกับสายงานอื่น ในบางครั้งความอาวุโสอาจจะเป็นเพียงอีโก้ที่สร้างเพื่อเหยียบย่ำคนที่ยังไม่รู้ไม่ทราบ แสดงความเหนือ โชว์ความพราว สร้างความภูมิใจจอมปลอมของตนเอง
หลายครั้งสังคมก็มีส่วนหล่อหลอมให้อีโก้ของคน แข็งแกร่งจนกลายเป็นอคติ ปิดกั้นการพัฒนาไปสู่สิ่งที่ดีกว่า ซึ่งประเด็นหลักก็มาจากการทำตัวเอง คิดเองมั่นใจเอง คนรอบข้างอวยเพราะผลประโยชน์จนหลงลืมความเป็นจริงที่มองไม่ออก เตือนไม่ฟัง ฟังแค่อวย
ไม่ว่าจะอายุ 10 ขวบ หรือ 60 ทุกคนสามารถเป็นครูให้แก่กันได้ ไม่เรื่องใดก็เรื่องหนึ่ง ความจริงของโลก ณ ปัจจุบันที่ควรรับรู้รับทราบ คือ ไม่มีใครเก่ง ฉลาด รู้ดี รู้แจ้งไปทั้งหมดในโลกใบนี้
เก่งที่สุดในบ้าน เก่งที่สุดในอำเภอ เก่งที่สุดในบริษัท
เก่งที่ไหนก็ตาม โลกใบนี้มีคนอีกเยอะ ที่เก่งพอจะเหยียบหัวผู้อาวุโสขึ้นไปเป็นคนที่เก่งที่สุด ตามวัฎจักร
คนเก่งจริงเขาไม่โอ้อวด คนเก่งจริง เขาเก่งด้วยตัวเอง ไม่ได้บังคับทีมงานให้เก่ง ตัวเองได้ชื่อเสียง
การทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้ว ใช้ชีวิตด้วยความคิดที่ว่า ฉันคือความถูกต้องของโลกใบนี้ รังแต่จะสร้างความเบื่อหน่าย ไม่อยากคบหา เสวนาด้วยกับคนรอบๆตัว
ชีวิตมันก็มีเท่านี้ ยื้อให้อมตะไม่ได้ บางครั้งก็ไม่ต้องไปซีเรียส ใครจะอย่างงั้นอย่างงี้ หัดเคารพตัวเอง พัฒนาตัวเอง เอาเวลาตำหนิคนนั้นคนนี้ มาดูตัวเองดีกว่า ว่าดีเลิศขนาดไหนถึงได้เป็นเช่นนั้น
ไม่จำเป็นต้องแก่ ไม่จำเป็นต้องรวยล้นฟ้า แค่หัดให้เกียรติผู้อื่น ไม่ทะนงตน ก็กลายเป็นคนที่น่าคบหา พูดคุยด้วยแล้ว
ชีวิตเลือกได้ว่าจะเป็น อีแก่ตายยาก หรือ ตัวมัมที่ต้องตาม