Hipknox_ (εὐδαιμονία)

Hipknox_ (εὐδαιμονία)'s avatar
Hipknox_ (εὐδαιμονία)
npub1p0gl...v9kv
μέμνησο θανάτου จงระลึกถึงความตาย
ตื่นไวกว่านาฬิกาปลุก เพราะว่าเจอกับ recurrent dream + false awakening + memory loss - สถานที่เดิม (ทั้งเมือง, ย่อยเป็นบ้านต่างจังหวัด, ย่อยเป็นห้องนอน) - ผู้คน (น้องชาย, แม่ และพ่อที่ตายไปแล้ว) - เรื่องราว (ตื่นในความฝัน, ลุกจากเตียงนอน และคำถามว่าวันนี้จะต้องไปทำงานหรือเป็นวันหยุด) - เรื่องราวซ้อนชั้น (คำถามในหัวขณะที่ฝันคิดว่าจะต้องไปทำงานรึเปล่า คือต้องเดินทางยังไง และเห็นภาพที่เป็นวิธีที่เคยใช้เดินทางสมัยไปโรงเรียน, ไปฝึกงาน และไปทำงาน ต่างวิธีกันในโลกจริง) - แทรกกันระหว่างข้อมูลโลกจริงกับความฝัน (นึกออกว่าที่ทำงานในชีวิตจริงคือที่ไหน แต่ความฝันพยายามจะทำให้จำไม่ได้ และเติมที่ทำงานปลอม ๆ ขึ้นมา) - ความรู้สึก (เหมือนตื่นขึ้นในความฝันแล้วความจำเสื่อม เพราะข้อมูลซ้อนทับกันระหว่างความจริงกับความฝัน ทำให้พยายามจะนึกให้ออกว่าอะไรคือความจริง) ตื่น 5:27 (บันทึกไว้สำหรับรอบหน้า มันเกิดขึ้นอีกแน่นอน) #siamstr
หนังเรื่อง Oppenheimer (2023) กว่า 3 ชม. บอกกับเราว่าโลกไม่เคยตรงไปตรงมา ไม่เลย ไม่ได้ต่างจากกลศาสตร์ควอนตัม และแนวคิดแบบนิวตัน ความตรงไปตรงมา ความจริงเพียงหนึ่งเดียวนั้นใช้ไม่ได้ทั้งกับจักรวาล หรือแม้แต่กับมนุษย์ คือองค์ประกอบของสิ่งเล็ก ๆ ที่คาดเดาไม่ได้ มันจะมีอยู่จริงเมื่อนำมันมาพิจารณา และจะอันตรธานหายไปเมื่อเราไม่ได้สังเกต และขอบเขตที่เราได้รับอนุญาต คือการที่เราได้หยุดเวลาของสิ่งนั้นไว้เพียงชั่วครู่ขณะหนึ่ง และยาวนานได้เพียงกรอบเวลาของอายุไขที่เรามี คุณธรรมของมนุษย์ ดำรงอยู่ตรงไหนในความเป็นจริงที่แน่นอนของเขา มีใครบ้างที่ยึดถือคุณธรรมหนึ่งเดียวไปทั้งชีวิตโดยไม่เคยเปลี่ยนแปลงไป มันเป็นได้ทั้งคลื่นที่ซ่อนเร้นและอนุภาคที่นำออกมาแสดงให้เห็นในขณะนั้น และไม่ได้ปรากฏตัวเช่นเดิมกับสถานการณ์ที่แตกต่างออกไป กับผู้คนที่แตกต่าง แม้แต่ความไม่ซื่อตรงที่มีต่อตัวเขาเอง หรืออาจเพราะความซื่อตรงที่มีต่อตัวเขา "เราอาจรับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ไม่อาจรับรู้ถึงเหตุผลที่แท้จริงของมัน" หนังเรื่องนี้ไม่ได้สื่อออกมาเพียงภาพของความอัจฉริยะที่คน ๆ หนึ่ง ของคนกลุ่มหนึ่งที่มารวมตัวกันจะสามารถมีได้ ทฤษฎีที่เป็นเพียงนามธรรมที่ถูกนำออกมาใช้ให้เกิดเป็นความจริงเชิงประจักษ์ ไม่ได้เกิดขึ้นจากการถ่ายทอดผ่านผงของแท่งชอล์กที่ขีดลงเป็นตัวเลขหรือคำอธิบายเป็นตัวอักษรบนแผ่นกระดานดำ แต่จากทุก ๆ สิ่งที่เป็นตัวตนของเขาทั้งชีวิต ของพวกเขา ความซับซ้อนของมนุษย์ไม่ได้มีอยู่เพียงแค่ภาพของนักวิทยาศาสตร์ที่ต่อสู้กับทฤษฎีที่ท้าทาย องค์ประกอบอื่น ๆ ในอีกหลากหลายมิติที่ตัวหนังนำเสนอ การเมือง สงคราม การแข่งขัน หรือแม้แต่กับมนุษย์ที่เคยเป็นพันธมิตรในการร่วมมือกันทำสิ่งหนึ่งในช่วงเวลาหนึ่ง แม้ผิดใจกันเพียงครั้งเดียวก็สามารถจุดชนวนของสงครามครั้งใหม่ขึ้นมาได้ ดำเนินขึ้นอย่างลับ ๆ จนถึงช่วงเวลาที่สุกงอมเหมือนผลไม้ที่สุกเน่าคาต้น พร้อมที่จะร่วงหล่นลงบนดินเพื่อเจริญงอกงามเป็นเรื่องราวใหม่ เป็น 3 ชม. ที่คุ้มค่ามาก ๆ ในบ่ายของวันหยุดสุดสัปดาห์ [block time : 926,813] ว่าแล้วชักอยากจะกลับไปอ่าน Helgoland อีกรอบ ถึงไฮเซนเบิร์กผู้ค้นพบกลศาสตร์เมทริกซ์ขณะปลีกวิเวกบนเกาะเล็ก ๆ นอกชายฝั่งอังกฤษอย่างยากลำบาก คู่ขัดแย้งของฟังก์ชันคลื่นจากชโรดิงเจอร์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาแห่งการเที่ยวพักผ่อนกับชู้รักในเทือกเขาแอลป์ ต้นธารแห่งความไม่เข้าใจในกลศาสตร์ควอนตัมที่ไม่มีใครเข้าใจมันได้จริง ๆ แต่มนุษย์ก็ยังคงสามารถนำมันมาใช้สร้างเป็นระเบิดที่ทำลายล้างกันเองได้ในที่สุด --- Note: ความสนใจเฉพาะ Oppenhiemer (2023) "บัดนี้เราคือ[ความตาย]คือผู้ทำลายล้างโลกทั้งมวล" ภควัทคีตา บรรพ 11 โศลก 32 Kālah ในที่นี้แปลว่า "เวลา" กาลเวลาเกี่ยวข้องยังไงกับความตาย? Oppenheimer มองเห็นตัวเองเป็นผู้เร่งรัดเวลาให้นำสู่การทำลายทุกสิ่ง? #siamstr #siamstrOG
ความแตกต่างเมื่อทดลองใช้งาน AI ในรูปแบบการถามตอบเรื่องนิยามของ "ปิตาธิปไตย" Gemini (Google Search) = ตอบแบบให้เห็นภาพรวมตั้งแต่ต้นกำเนิดในอดีตไปจนถึงมุมมองสมัยใหม่จากเฟมินิสต์ที่มีต่อแนวคิดปิตาธิปไตย GPT 5.1 Thinking = ความคิดเห็นจากฝั่งเฟมินิสต์ จบ, กลับไปใช้ตัว 4o ไม่ก็ 5.0 #siamstr
ถ้าอยู่ในจุดที่สามารถเลือกเพื่อนร่วมงานที่จะต้องทำงานด้วยกันได้ คุณจะเลือกคนแบบไหนให้มาทำงานด้วยกันกับคุณ สำหรับผมในตอนนี้คำตอบมันง่ายมาก เลือกคนที่จะทำงาน เหมือนกับว่ากำลังเป็นเจ้าของงานที่เขาจะต้องทำ #siamstr